วันที่ 21 ม.ค.63 เวลา 05.30 น. ร.ต.อ.สมศักดิ์ ศรีณรงค์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์เกิดขึ้นภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะโรงแรมม่านรูด ย่านฝั่งท่าข้าม เขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา มีทรัพย์สินเป็นเงินสดของพนักงานแคชเชียร์หายไป พร้อมด้วยทรัพย์สินของแขกที่มาเช่าห้องพักเป็นเงินสดไม่ทราบจำนวนแน่ชัด และโทรศัพท์มือถือ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ

 

ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมขนาดเล็กมีห้องพักจำนวนกว่า 20 ห้อง ทางด้านซ้ายของถนนศุขประยูร ด้านฝั่งขาออก เมื่อทำการเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดดู สามารถมองเห็นภาพใบหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน โดยพบว่าคนร้ายเป็นชายผิวคล้ำรูปร่างท้วมลงพุงสูงประมาณ 160 ซม. อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อสีไข่แกรมส้ม สวมกางเกงสีกากีแกรมเหลืองแบบขาสามส่วน ตัดผมรองทรง

 

เดินย่องเข้ามายืนนิ่งดูลาดเลาในเวลาประมาณ 03.00 น. เมื่อเห็นพนักงานเฝ้าหน้าเคาน์เตอร์นอนหลับอยู่บนโซฟา จึงได้เริ่มลงมือก่อเหตุเข้ามาดึงชักลิ้นชักเพื่อหาทรัพย์สินของมีค่า และเมื่อเห็นคนที่กำลังนอนหลับอยู่ขยับตัวก็จะก้มหมอบลงต่ำและทำนิ่งเฉยเพื่อดูท่าทีก่อนที่จะลงมือปฏิบัติการต่อ ด้วยการคว้านำเอากระเป๋าสะพานแบบสุภาพสตรีของแคชเชียร์ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ด้านหลัง เพื่อนำเอาไปล้วงหาทรัพย์สิน

 

ก่อนที่จะได้เงินสดจากกระเป๋าไปเป็นเงินจำนวน 1,600 บาท จากนั้นได้นำเอามาวางเก็บคืนไว้ยังที่เดิม โดยทำลักษณะแนบเนียนเหมือนกับว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ต่อมาจึงได้นำเอาลูกกุญแจสำรองจากบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ไปเดินไขตามห้องพัก จนได้ทรัพย์สินของแขกที่มาเข้าไปเป็นเงินสดที่ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัด และโทรศัพท์มือถือติดมือไปด้วย

 

ขณะเดียวกันพนักงานสาวที่หน้าเคาน์เตอร์ และคนงานภายในโรงแรมยังระบุด้วยว่า สำหรับคนร้ายรายนี้ได้เคยเข้ามาเช่าห้องพักยังที่โรงแรมแห่งนี้มาก่อนหน้าแล้ว 1 ครั้ง และพบว่ามีพฤติกรรมในลักษณะของการเดินไปบิดลูกบิดประตูตามห้องพักของแขกรายอื่นๆ เพื่อโจรกรรมเอาทรัพย์สินของแขกบางรายที่อาจเผลอลืมกดล็อคประตู โดยมีภาพวงจรปิดเคยจับภาพพฤติกรรมดังกล่าวเอาไว้ได้

 

และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และลักษณะท่าทางพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ เชื่อว่าเป็นผู้ที่มีความชำนาญการในการลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ตามโรงแรมมาอย่างโชกโชน ด้วยการเข้ามาทำทีเป็นแขกขอเข้าพัก ยังตามโรงแรมขนาดเล็กต่างๆ ที่ไม่มีคนพลุกพล่านมากหนัก ก่อนที่จะลงมือโจรกรรมทรัพย์สินตามห้องพักของแขกรายอื่นๆ

 

และหากสบโอกาส พบว่าพนักงานหน้าเคาน์เตอร์หลับใหลในช่วงกลางดึก ก็จะทำการแอบนำกุญแจสำรองเดินเข้าไปไขประตูตามห้องพักต่างๆ เพื่อโจรกรรมเอาทรัพย์สิน หากแขกรายใดลืมล็อคประตู หรือล็อคเพียงเฉพาะลูกบิดชั้นนอกแต่ไม่ได้คล้องห่วงโซ่ชั้นใน ก็จะถูกโจรกรรมเอาทรัพย์สินไป และหากคนร้ายเข้าไปยังภายในโรงแรมแล้วพบเจอกับพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ ก็จะทำทีเป็นแขกขอเช่าห้องพักชั่วคราวแบบเนียนๆ จากนั้นก็จะลงมือก่อเหตุเดินบิดเปิดประตูตามห้องพักต่างๆ ของแขกรายอื่นๆ อีก