วันที่ 28 ม.ค. 63 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ศักดิ์ชัยลิ้มเจริญ ผบก.ภ.จว.กระบี่, พ.อ.ชัยพัฒน์รันสูงเนินรองผอ.กอ.รมน.จ.กระบี่พ.ต.อ.พิษณุ อัชนะพรกุล รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่,พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.ภ.จว.กระบี่,พ.ต.อ.อภิชาติ จินาเพ็ญ ผกก.สภ.อ่าวนาง,พ.ต.ท.สมพร ทิพย์อาภากุล รอง ผกก.สส.ภ.จว.กระบี่,พ.ต.ท.อธิวัฒน์ ไชยศรีสุทธิ์ รอง ผกก.ป.สภ.อ่าวนางพ.ต.ท.นพดล กล่อมพงศ์ สว.กก.สส.ภ.จว.กระบี่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภ.จว.กระบี่ได้ควบคุมตัวนายฤทธิเมธ สิงหอำไพ หรือ ดิวอายุ 40 ปีอยู่บ้านเลขที่ 56/149 ซอยพหลโยธิน 64 แขวงสนามบินเขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ที่ 43/2563 ลง 25 มกราคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สิน,ทำให้เสียทรัพย์”ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังจับกุมตัวได้ที่ บริเวณท่าเรือโดยสารเกาะพีพี หมู่ที่ 7 ต.อ่าวนางอ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ พร้อมของกลางการ์ดพลาสติก หมวก และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวไปทำแผนจุดแรก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ม.ค.63 ที่โรงแรมอ่าวนางบุรี รีสอร์ท โดยผู้ต้องหาใช้บัตร พลาสติก เข้าไปงัดห้องพัก ที่ล็อคด้วยลูกบิดจากด้านนอก ได้อย่างง่ายดายก่อน เข้าไปยกตู้เซฟออกมาแล้วงัดด้วยไขควงเอาทรัพย์สินออกมา ก่อนเอาไปทิ้งสวนหย่อมหน้าหาดนพรัตนาราจากนั้นผู้ต้องหาก็เดินเท้าไปที่โรงแรมธาราบุรี รีสอร์ท หาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง ซึ่งเป็นจุดที่สอง ที่อยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร เข้าไปงัดประตูห้องพักด้านหลังที่อยู่ติดกับสระน้ำ ด้วยไขควง แล้วเข้าไปยกตู้เซฟออกมางัดเอาทรัพย์สินไป ซึ่งระหว่างทำแผนจุดแรกทางผู้ประกบการเจ้าของโรงแรมได้มอบเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อเป็นกำลังใจหลังจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลารวดเร็ว เป็นการสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวกลับคืนมา

 

จุดต่อมาเป็นจุดที่ผู้ต้องหาได้ทรัพย์สินมากที่สุด คือ ที่โรงแรมกระบี่เฮอริเทจ หาดอ่าวนาง ต.อ่าวนางผู้ต้องหาได้เข้าไปนั่งที่หน้าฟร้อนซ์ทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเข้าพัก พอสบโอกาสพนักงานโรงแรมเผลอ ก็ขึ้นไปบนชั้นสอง ใช้การ์ดพลาสติก เขี่ยลูกบิดประตูห้องพักเข้าไปอย่างง่ายดายก่อนเข้าไปยกตู้เซฟ ออกมา งัดด้วยไขควงเอาทรัพย์สินรวมทั้งบัตรเอทีเอ็มซึ่งผู้เสียหายเขียนรหัสติดไว้ที่บัตรไปกดเงินได้ไปกว่า 5 หมื่นบาทรวมทรัพย์สินอื่นๆอีกหลายรายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 437,000 บาทจากนั้นผู้ต้องหาเอาตู้เซฟไปซ่อนไว้บนฝ้าเพดานห้องเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ม.ค.63และในวันเดียวกันผู้ต้องหาก็ได้ไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันที่โรงแรมดุสิต ดีทูแต่ไม่ได้ทรัพย์สินไปต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตาม จุดต่างๆและได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดทราบแน่ชัดว่าคนร้ายดังกล่าวคือนายฤทธิเมธ สิงหอำไพ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานซึ่งต่อมาศาลจังหวัดกระบี่ได้อนุมัติหมายจับโดยทราบว่าผู้ต้อวงหา จะเดินทางมาที่เกาะพีพี หมูที่ 7 ต.อ่าวนางอ.เมืองกระบี่ฯ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะพีพี เพื่อให้ตรวจสอบจับกุมผู้ ต้องหารายดังกล่าวต่อมา วันที่ 27 ม.ค.2563เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบตัวนายฤทธิเมธ ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับเดินอยู่ที่บริเวณ ท่าเทียบเรือโดยสารเกาะพีพี จึงได้เข้าไปแสดงตัวเข้าทำการจับกุม พร้อมแจ้งข้อหา“ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์สิน,และทำให้เสียทรัพย์เบื้องต้นในชั้นการจับกุมนายฤทธิเมธฯ ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าทำงานรับเหมาแต่ประสบภาวะขาดทุนเป็นหนี้สินจำนวนมากจึงได้มาก่อเหตุดังกล่าว จนท.นำตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และคัดค้านการประกันตัว

 

ด้านพ.ต.อ.พิษณุพ่วงพร้อม ผกก.สส.ภ.จว.กระบี่กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีประวัติโชกโชน เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยเมื่อปี56 ถูกจับกุมข้อหาลักทรัพย์ที่ จ.ภูเก็ตและก่อนหน้านี้เมื่อเดือนต.ค.62ก็ได้ก่อเหตุงัดห้องพักโรงแรมในย่านอ่าวนาง จ.กระบี่และย่ามใจกลับมาก่อเหตุอีกครั้งในเดือนมกราคม 63 รวมโรงแรม 4 แห่ง ในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ กวาดทรัพย์สินไปหลายแสนบาท และทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ชอบใช้ของแบรนด์เนม และใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนท.จับตัวได้ใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์เนื่องจากหลังก่อเหตุผู้ต้องหาเดินทางไปหลายที่หลังก่อเหตุที่กระบี่ก็เดินทางไปหาดใหญ่ และไปที่ภูเก็ต จากภูเก็ต กลับไปเช่ารถจากหาดใหญ่ จ.สงขลาไปนครศรีธรรมราช ก่อนที่จะพาแฟนกลับมาเที่ยวที่เกาะพีพี ก่อนถูกจับกุม