วันที่ 11 มี.ค. 63 ขณะที่ พ.ต.ต.พิเชษฐ ปักเคธาติ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในกุฏิ 8 วัดทิพยรัฐนิมิต หรือวัดป่าบ้านจิก ถ.นเรศวร ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยพระภิกษุจำนวนกว่า 10 รูป วิ่งไล่จับคนร้ายพร้อมของกลางเอาไว้ได้ จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยสายตรวจอินทรีย์ 191 และ ด.ต.เจริญ จันทร์รักษ์ ผบ.หมู่ งานจราจร สภ.เมืองอุดรธานี

 

ที่เกิดเหตุพบภายในบริเวณวัดบ้านจิก พระปริยัติ ปภาถโร อายุ 41 ปี และพระอนุชา อมโร อายุ 29 ปี พระลูกวัด นำตำรวจชี้ให้จับกุมคนร้ายทราบชื่อภายหลัง คือ นายอิทธิพล จำปาเรือง อายุ 26 ปี ชาว ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ถูกควบคุมตัวพร้อมของกลางไว้ในกุฏิที่เกิดเหตุ เป็นน้ำอัดลม (เป็ปซี่) ขนาด 1 ลิตร จำนวน 6 ขวด และขนมกับข้าวที่ญาติโยมใส่บาตรและนำมาถวายที่ วางอยู่โต๊ะด้านหลังกุฏิ

 

นายอิทธิพล จำปาเรือง คนร้ายให้การรับสารภาพว่า เป็นคนเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในกุฏิแห่งนี้จริง เพราะเห็นประตูหลังกุฏิไม่ได้ปิดล็อกไว้ และที่ทำอย่างนี้เนื่องจากตกงานมา 2 วันแล้ว เนื่องด้วยจนและไม่มีเงินจ่ายค่าห้องเช่า และไม่มีเงินซื้อกับข้าวกินจึงมาก่อเหตุดังกล่าว นายอิทธิพล บอกอีกว่า เมื่อปี 2562 เคยเป็นสายลับตำรวจปราบปรามยาเสพติด ภ.จ.อุดรธานีหลังจากนั้นก็ออกมาเพราะอันตราย ส่วนตัวตนเองไม่เสพยาบ้า และไม่เคยถูกจับดำเนินคดี  รู้สึกเสียใจและสำนึกผิดในสิ่งที่ตนกระทำ

 

พระปริยัติฯ และพระอนุชาฯ ให้การว่า ตอนเช้าเห็นคนร้ายเดินเข้ามา ด้านหลังกุฏิ 8 และกำลังก้มม้วนสายไฟตู้เชื่อมเหล็ก จึงโทรศัพท์ถามผู้รับเหมาที่มาต่อเติมกุฏิ ว่าได้รับคนงานใหม่มาทำงานด้วยหรือไม่ เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ซึ่งผู้รับเหมาปฏิเสธไม่มีการรับคนงานใหม่ ส่วนคนร้ายเมื่อเห็นพระมาถามที่มาที่ไป คนร้ายก็ได้เดินไปขอข้าวก้นบาตรกินที่ศาลาจนอิ่ม จากนั้นคนร้ายได้เดินมาด้านหลังกุฏิ 8 อีกรอบ และเข้าไปขโมยทรัพย์สินดังกล่าวออกมาวางไว้ข้างนอก เมื่อเห็นพระร้องถามได้วิ่งหลบหนีอย่างไม่คิดชีวิต แต่พระจำนวน 10 รูป ที่จำพรรษาอยู่กุฏิ 8 และกุฏิใกล้เคียง รู้ว่ามีโจรเข้ามาขโมยทรัพย์สิน ได้พากันวิ่งไล่ดักจับคนร้ายได้พร้อมของกลาง ห่างจากกุฏิที่เกิดเหตุราว 100 เมตร ควบคุมตัวพร้อมของกลางไว้รอตำรวจ

 

ด้าน พ.ต.ต.พิเชษฐ ปักเคธาติ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากควบคุมตัวคนร้ายและของกลาง มาสอบสวนปากคำที่โรงพัก ทางพระผู้เสียหายโทรศัพท์มาขอบิณฑบาต เพราะสงสาร และทำไปเพราะความหิว ทางเราจึงถ่ายรูปทำประวิติไว้ ก่อนปล่อยตัวไป ส่วนของกลางทางพระผู้เสียหายก็มอบให้คนร้ายไว้กินเพื่อประทังชีวิต เพราะดูท่าทางคงอดข้าวมาหลายวัน