จากกรณีนายมานพ โกปิน อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงพระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร  อายุ 49 ปี หัวหน้าพุทธอุทยาน สำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา  อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานีพระนักพัฒนาชื่อดังของ จ.สุราษฎร์ธานี มรณภาพคาที่ โดยสภาพศพถูกยิงที่บริเวณท้ายทอย 1 นัดชายโครงขวา1นัด และยิงนายชูรัตน์ คงคล้าย  อายุ 47 ปี ชาวบ้านมาตีผึ้งเป็นรายที่ 2 เสียชีวิตอยู่บนท้ายรถกระบะ มิตซูบิชิ สีขาวหมายเลขทะเบียน บง 871 จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ด้านท้ายดัดแปลงเป็นรถบรรทุกไม้ยางพารา จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 พบปลอกกระสุนปืนลูกซองที่ยิงแล้วตกอยู่บริเวณข้างรถจำนวน 2 ปลอก ห่างจากรถคันเกิดเหตุไปประมาณ 20 เมตรพบรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ตอนครึ่งสีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน 8154 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้านท้ายกระบะมี เชือก ถุงปุ๋ย เปลือกลูกมะพร้าว ใต้โคนต้นปาล์มพบอาวุธปืนขนาด.380 ห่างจากศพพระชลธาร มาประมาณ 10 เมตร ใกล้กับศพพระชลธารพบปลอกกระสุนปืนลูกซองที่ยิงแล้วจำนวน 1 ปลอก และห่างจากศพพระไปประมาณ 2 เมตรเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ดตอนเดียวสีบรอนด์เทา ป้ายแดงทะเบียน ก 6255 จังหวัดสุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา

 

เบื้องต้นคาดว่าปมขัดแย้งเรื่องการเก็บน้ำผึ้งบนต้นไม้เขตสำนักสงฆ์ โดยที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนากับผู้ใหญ่บ้าน แต่ไม่ได้ควบคุมตัวไว้โดยให้เหตุผลว่าทางนายอำเภอ/ปลัดอำเภอให้การยืนยันว่าเป็นการกระทำขณะปฏิบัติหน้าที่และไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนีหรือข่มขู่พยาน โดยที่พยานออกมายืนยันว่าพระไม่ได้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ขณะที่สังคมวิพากวิจารณ์กันว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่และญาติเตรียมร้องเรียนต่อกองปราบปรามและดีเอสไอ.ช่วยคลี่คลายคดีนี้ ขณะที่ทางแม่ /ญาติ ๆและลูกศิษย์ ของพระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร มีมติได้เก็บศพพระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร ไว้ก่อนไม่มีกำหนด จนกว่าผลการชันสูตรศพออกมาและจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะประเด็นที่ผู้ต้องหาอ้างว่าพระชักปืนต่อสู้แต่พยานหลักฐานที่เกิดเหตุขัดแย้งกับความเป็นจริง และเป็นการกระทำต่อหน้าปลัดอำเภอท่าชนะและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่อยู่ในเหตุการณ์มากกว่า 10 นาย

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 15 เม.ย. 63 ที่ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานีตัวแทนคณะสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี อ่านแถลงการณ์และยื่นแถลงการณ์เปิดผนึกถึงนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายประเวศ ไทยประยูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี รับคำแถลงการณ์แทน ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกันนี้ยื่นแถลงการณ์ถึง พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้รับคำแถลงการณ์แทน โดยในคำแถลงการณ์มีข้อความโดยสรุปว่า “แถลงการณ์ คณะสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี” กรณียิงพระนักพัฒนาจนมรณภาพและชาวบ้านเสียชีวิต คณะสงฆ์จังหวัด

 

สุราษฎร์ธานี รู้สึกสลดใจต่อเหตุการณ์ ยิงพระสงฆ์และชาวบ้าน โดยการอ้างของผู้ใหญ่บ้านว่าพระสงฆ์และชาวบ้านฝ่าฝืนข้อกำหนด ฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น.-04.00 น. ตามที่เป็นข่าวว่าเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 7 เม.ย.2563 เหตุเกิดหน้าสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา ม.9 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะจ.สุราษฎร์ธานี หนึ่งในสองของผู้เสียชีวิตคือพระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร หัวหน้าพุทธอุทยานสำนักสงฆ์ถ้ำเขาเพ-ลา ซึ่งท่านเป็นพระนักพัฒนาที่ทำคุณประโยชน์แก่สังคมมากมาย อนุรักษ์เขาเพ-ลาให้ยังคงความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ดูแลและพิทักษ์พื้นที่ดังกล่าว นำชาวบ้านสร้างฝายมีชีวิตหลายแห่ง เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ นอกจากนั้นยังมีผลงานปรากฏเกี่ยวกับการอนุรักษ์มากมาย อาทิ รางวัลแทนคุณแผ่นดิน 77 ต้นแบบคนดี

 

กรณีดังกล่าวผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ได้กล่าวว่าพระชลธาร ถาวโร กาญจบุตร และชาวบ้านได้ฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงทำการจับกุมพระและชาวบ้าน พร้อมอ้างว่าพระสงฆ์และชาวบ้านขัดขืนต่อสู้ระหว่างการจับกุม จึงได้ทำการวิสามัญ โดยได้ทำการยิงพระสงฆ์และชาวบ้านดังกล่าวด้วยอาวุธปืน ตามภาพข่าวที่ปรากฏกระสุนได้เข้าที่ท้ายทอยด้านหลังพระและด้านหน้าของชาวบ้าน ซึ่งกรณีดังกล่าวมองจากภาพข่าวที่ปรากฏพระถูกยิงด้วยอาวุธปืนและคำให้การของผู้ใหญ่บ้าน พระใช้อาวุธปืนทำการต่อสู้ ซึ่งจากภาพข่าวนั้นอาวุธปืนได้อยู่ไกลจากศพพระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร ประมาณ 10 เมตร (ตามภาพข่าว)และเจตนารมณ์การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและประกาศเคอร์ฟิว ในครั้งนี้มิได้ประกาศให้เอาชีวิตใคร แต่เป็นการประกาศเพื่อปกป้องรักษาชีวิตของปวงชนชาวไทย แต่ผู้ใหญ่บ้านดังกล่าว กลับอ้างกฎหมายฉบับนี้เข่นฆ่าผู้อื่นอย่างขาดจิตสำนึก ดังนั้นคณะสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงขอเรียกร้องดังนี้

 

1.ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี / ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ดำเนินการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคดีส่วนนี้ สอบสวนคดีอย่างรอบคอบตรงไปตรงมา เพื่อมิให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดใช้ช่องว่างแห่งกฎหมายเพื่อทำตนให้พ้นจากความผิด ซึ่งขัดต่อเจตนารมณของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับนี้ พร้อมทั้งให้ทางหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ได้แจ้งความคืบหน้าของคดีให้สาธารณชนได้รับทราบเป็นระยะ

 

2.หากทราบว่ามีบุคคลอื่นใดที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย หรือให้การช่วยเหลือผู้กระทำความผิดในเหตุดังกล่าว โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายกล่าวคือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ข้อกำหนด ฯห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกจากเคหสถานขอให้ท่านได้ดำเนินการเอาผิดต่อผู้ร่วมกระทำความผิดดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งให้ท่านแจ้งไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้มีกระบวนการเยียวยาญาติผู้สูญเสียตามสมควร

 

คณะสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวพระชลธาร ถาวโร กาญจนบุตร ผู้มรณภาพ หัวหน้าพุทธอุทยาน สำนักสงฆ์ถ้าเขาเพ-ลา และครอบครัวนายชูรัตน์ คงคล้าย ผู้เสียชีวิต พร้อมกันนี้คณะสงฆ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะร่วมกันติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างใกล้ชิดเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมแก่ผู้มรณภาพและผู้เสียชีวิตเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานแก่ชาวพุทธผู้นับถือพุทธศาสนาต่อไป.