วันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567 21:18 น.

อาชญากรรม

ฝ่ายปกครองลุยเอง บุกทลาย 2 บ่อนใหญ่กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนัน 87 คน

วันอังคาร ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 19.45 น.
เมื่อที่ 30 มิถุนายน 2563 ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง (ศกปค.)   กระทรวงมหาดไทย นำโดยนายรณรงค์ ทิพย์สิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เปิดปฏิบัติการ “ดีบุก” ขอหมายศาลบุกเข้าทลาย 2 บ่อนใหญ่กลางเมืองภูเก็ต หลังจากมีประชาชนร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมและร้องผ่านสื่อมวลชนหลายสำนัก ว่า มีบ่อนการพนันผุดขึ้นจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเปิดเป็นบ่อนพนันโปปั่น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “บ่อนกุ้ง - ปลา” และเปิดให้นักพนันเข้าไปเสี่ยงโชคทั้งวันทั้งคืน โดยไม่สนใจคำสั่งปิดแหล่งมั่วสุม ห้ามร่วมกลุ่ม ระยะหัวเลี้ยวหัวต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 แต่อย่างใด
 
 
หลังได้รับการร้องเรียน กรมการปกครอง ได้ส่งพนักงานฝ่ายปกครองเข้าไปทำการสืบสวน และเข้าตรวจสอบ พบว่า บ่อนพนันจุดแรก ตั้งอยู่กลางเมืองภูเก็ต  จึงได้ร่วมวางแผนกับทาง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต  ตรวจสอบบริเวณลานกว้างหลังตึก ย่านพูนผล ถนนพูนผล ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต พบว่ามีการลักลอบเปิดบ่อนการพนันโปปั่น หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า กุ้ง, ปลา, แมงดา, ดอกไม้ ซึ่งเป็นการพนันยอดนิยมบนเกาะภูเก็ต สภาพบ่อนเป็นพื้นที่โล่ง มีการล้อมรั้วด้วยกำแพงสังกะสีรอบทิศทาง เพื่อบิดบังสายตาคนทั่วไปมิให้มองเห็นกิจกรรมภายในบ่อน โดยมีทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ สามารถรองรับรถยนต์กว่า 30 คัน ขับเข้าไปแอบซ่อนจอดเพื่อเล่นพนันภายในบ่อนได้  โดยจะมีคนเฝ้าประตูคอยดูต้นทางตลอดเวลา เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปด้านใน  พบรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอดเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ภายในอาคารพบนักพนักที่รวมตัวกันเล่นพนันกันอย่างขมักเขม่น เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ฯ ต่างพากันแตกตื่น ทิ้งสิ่งของวิ่งหนีกระจัดกระจายกันไปคนละทิศคนละทาง แต่เจ้าหน้าที่ฯ ได้วางกำลังไว้รอบด้าน ปิดทางหนีทุกด้าน โดยสามารถรวบตัวนักพนันได้ 45 คน แยกเป็น ชาย 30 คนและหญิง 15 คน พร้อมเงินของกลาง 62,420 บาท และทองคำหนักหนึ่งบาท
 
 
จุดที่สองบริเวณใกล้สี่แยกเขาล้าน ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง  เป็นบ่อนที่ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่โล่ง  มีรั้วสังกะสีกั้นป้องกันมิให้คนภายนอกมองเห็น โดยมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์จอดอยู่ภายในจำนวนมาก ตรวจสอบภายในบ่อนพบนักพนันกำลังรวมกลุ่มเล่นพนันอย่างครึกครื้น และมีนักพนันจากภายนอกเดินเข้าออกบ่อนตลอดเวลา เมื่อนักพนันเห็นเจ้าหน้าที่ต่างแตกตื่นตกใจและพยายามจะวิ่งหนี แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากได้มีการจัดกำลังล้อมไว้ โดยสามารถจับกุมนักพนันได้ จำนวน  42 คน แยกเป็นชาย 22 คนและหญิง 20 คน  รวมทั้งเงินของกลางในบ่อน จำนวน 64,260 บาท นอกจากนี้ยังพบบัญชีเงินหมุนเวียนบ่อนละกว่าหนึ่งล้านบาทต่อวัน รวมทั้ง 2 จุด เป็นจำนวน 87 คน เงินของกลาง 126,680 บาท
จากนั้นได้นำตัวผู้ถูกจับทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต และที่ว่าการอำเภอถลาง  ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักลอบจัดให้มีการเล่นอันระบุไว้ใน บัญชี ก. หมายเลข 2 (โปปั่น) เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
 
 
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง เปิดเผยว่า บ่อนพนันทั้ง 2 แห่ง ที่เข้าจับกุมเคยเปิดเป็นบ่อนพนันมานานแล้ว และมีชาวบ้านในพื้นที่เขาเดือดร้อนจนนำมาร้องเรียนออกสื่อมวลชนเป็นข่าวใหญ่โต ทำให้บ่อนปิดตัวไปชั่วคราว แต่พอเรื่องเงียบก็กลับมาเปิดใหม่ซ้ำอีกครั้งในสถานที่เดิม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย แม้จะอยู่ในสถานการณ์ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
จากการตรวจสอบพบว่าบ่อนพนันทั้ง 2 แห่งนี้ เปิดพร้อมกับมาตรการคลายล็อก เฟส 4 และมีการปล่อยให้นักพนันเข้ามั่วสุมเล่นพนันกันได้โดยไม่มีการคัดกรองป้องกันโรคแต่อย่างใด นอกจากนี้จะได้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วยว่า เป็นการฟอกเงินหรือไม่ เนื่องจากเบื้องต้นพบเส้นทางการเงินที่หมุนเวียนจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า บ่อนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับใครบ้าง
 
“จากนี้ฝ่ายปกครองจะได้กวดขันจับกุมแหล่งอบายมุขอย่างต่อเนื่อง  และฝากถึงผู้เกี่ยวข้องขอให้ประกอบธุรกิจให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคมเกินควร หรือท้าทายกฎหมายอย่างชัดแจ้ง หากประชาชนมีเบาะแสบ่อนการพนันหรือแหล่งอบายมุขสร้างความเดือดร้อนในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองในท้องที่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบยังไม่มีการปฏิบัติ สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย”
 
นายรณรงค์ กล่าวด้วยว่า  ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า มีมิจฉาชีพ อ้างตัวเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองหรืออ้างเป็นนายหน้าตัวแทน ออกตระเวนตบทรัพย์เรียกรับผลประโยชน์จากบ่อนการพนัน และธุรกิจสีเทาต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และมีผู้ยินยอมจ่าย จึงขอประกาศให้ทราบว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ไม่มีนโยบายในการเรียกทรัพย์สินกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจผิดกฎหมายเพื่อรับเคลียร์ใดๆทั้งสิ้น โดยมีกำลังพลเพียง 30 นาย และมีภารกิจปฏิบัติการในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่มีเวลาที่จะไปตระเวนเรียกรับผลประโยชน์ และหากทราบว่าสถานประกอบการสีเทาใดที่จ่ายหรือเคลียร์กับกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว  จะเข้าจับกุมสถานประกอบการนั้นทันที  ทั้งนี้ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ปฏิบัติงานภายใต้กรอบภารกิจ  คือ กรณีมีผู้ร้องเรียนว่า ได้รับความเดือดร้อน ผ่านศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย และหรือศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล และได้มีการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้วว่ามีมูล, ภารกิจที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการ และภารกิจที่หน่วยงานของรัฐ มีหนังสือประสานร้องขอมาอย่างเป็นทางการ

หน้าแรก » อาชญากรรม