วันที่ 10 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 17.55 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งเหตุมีนักศึกษาถูกยิงได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย บริเวณที่จอดรถประจำทางตรงข้ามวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม ถนนเพชรเกษม ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม จึงประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจและชุดป้องกันและปราบปรามและชุดสืบสวน ลงพื้นที่ในการป้องกันเหตุซ้ำซ้อนและเร่งติดตามคนก่อเหตุ

 

โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุเป็นป้ายรถประจำทาง มีนักศึกษาและอาจารย์ต่างได้ลงยืนมุงบริเวณดังกล่าว พบว่านักศึกษาที่ถูกยิงและมีบาดแผลบริเวณแขนและลำตัวได้ถูกเร่งนำตัวไปส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมก่อนหน้าแล้ว จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่าผู้ที่ถูกยิงและมีบาดแผลทั้งหมด 4 รายประกอบด้วยชาย 2 คน มีบาดแผลที่แขน และ 1   รายมีบาดแผลที่ลำตัว โดยมีนักศึกษาหญิงมีบาดแผลที่ลำตัว 1 คน ทั้งหมดเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม โดยที่หน้าห้องฉุกเฉิน ได้มีกลุ่มเพื่อนตามมาดูอาการและให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยความตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ขณะเดียวกัน ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ค ที่ใช้ชื่อว่า ประยุทธ ทาพา รับแกะสลักป้ายหินแกรนิตหินอ่อน ได้โพสต์คลิบและภาพในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยปรากฏเป็นภาพของกลุ่มชายหลายคน สวมเสื้อและกางเกงขายาวและสวมหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบปิดใบหน้ามิดชอบ ได้วิ่งคว้าง้าวสำหรับถากหญ้าวิ่งไล่ทำร้ายกลุ่มนักศึกษาที่กำลังมารอรถหลาบสิบคน โดยมีภาพปรากฏเป็นรถจักรยานยนต์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุและนาทีการลำเลียงคนที่ได้รับบาดเจ็บขึ้นรถกระบะไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่าช่วงเกิดเหตุ ตนเองได้ยินเสียงดังตูมเหมือนระเบิดดัง 1 ครั้งจึงได้วิ่งออกมาดูพบว่ามีชายหลายคนกำลังก่อเหตุและมีเสียงปืนดัง 1 ครั้งจึงได้ถ่ายคลิบช่วงท้ายของการบุกมาทำร้ายนักศึกษาพอดี ซึ่งก่อนหน้าไม่นานก็มีมายกพวกทำร้ายแบบนี้แต่ไม่ถอดแผ่นป้ายทะเบียนรถและไม่มีคนบาดเจ็บเยอะขนาดนี้ กระทั่งมาเกิดเหตุอีกวันนี้ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่นักศึกษาของที่วิทยาลัยเทคนิคนครปฐมถูกลงมาทำร้ายขณะที่กำลังอยู่ในพื้นที่การรอรถ

 

โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่ในการเก็บหาหลักฐานในช่วงหัวค่ำซึ่งพบว่ามีเศษหัวกระสุนปืนลูกและเศษลูกตะกั่วตกกระจัดกระจายหลายแห่งจึงได้ทำการบันทึกและเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่พ.ต.อ.วัชรินทร์ บุญรักษ์ ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม , พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรศรีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ได้ลงพื้นเพื่อติดตามและตรวจสอบข้อมูลเพื่อเร่งหาสาเหตุและติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุโดยเบื้องต้นพบว่าน่าจะมีการเตรียมการในการแต่งกายปกปิดใบหน้ามามิดชิดและถอดแผ่นป้ายรถจักรยานยนต์ โดยมีคนมาร่วมก่อเหตุประมาณ 9-10 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ มา 3-4 คัน ซึ่งได้ประเมินว่าน่าจะเป็นปัญหาการทะเลาะกันของนักศึกษาที่มีปัญหาส่วนตัวกันและการประกาศศักดาของนักศึกษาคู่อริที่เคยมีปัญหาข้ามสถาบันมานับสิบปี

 

นายเอก (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักศึกษา ปวช.ปีที่ 1 ช่างยนต์ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนเองและเพื่อนเพิ่งเลิกเรียนได้ออกมารอรถที่ป้ายรถเมล์โดยได้นัดหมายกับเพื่อนเพื่อมารอรถกลับบ้านพร้อมกันเนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย จู่ๆได้มีกลุ่มคนร้ายซึ่งเชื่อว่าเป็นนักศึกษาต่างสถาบันได้ขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมาแล้วได้ยินเสียงดังเหมือนระเบิดดังสนั่นและเมื่อหันไปมองได้มีกลุ่มคนเหล่านั้นได้จอดรถจักรยานยนต์แล้วคว้าง้าวและอาวุธมาไล่ตีนักศึกษาที่กำลังรอรถกลับบ้านกัน จากนั้นเมื่อได้ก่อเหตุเสร็จได้วิ่งกลับไปขี่รถจักรยานยนต์หนีออกไปทางเข้าตัวเมือง เมื่อได้เหตุการณ์สงบก็พบว่ามีคนเจ็บจึงได้เร่งช่วยกันอุ้มคนที่มีบาดแผลเลือดไหลไปขึ้นรถเพื่อส่งโรงพยาบาลโดยตนเองยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเพิ่งเปิดเทอมมาได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น