เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 21 พ.ย.63 ร.ต.อ.นมัสพงษ์ มัดหา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่ภายในร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือ เจ๊ใบหม่อน เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 1589/23 ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยโนรี ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ  มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย และบาดเจ็บจำนวน  1 ราย หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ  ไปตรวจสอบ

 

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพานิชย์ 3 ชั้น ชั้นล่างด้านหน้าเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือซึ่งได้จัดของไว้เตรียมขายเรียบร้อยแล้ว บนห้องนอนชั้น 2 พบร่างของ นายไพสนธิ์ อิ่มกลิ่น อายุ 46 ปี สวมเสื้อโปโลสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้นสามส่วนสีกากี สวมรองเท้าผ้าใบ นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอนในสภาพนอนหงาย มีบาดแผลที่บริเวณขมับขวาทะลุขมับซ้าย ที่ปลายเท้าข้างเตียงพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกเกลื่อนพื้นห้องนอน 6 ปลอก และหัวกระสุน 1 หัว

 

ใกล้กันที่พื้นห้องพบศพ น.ส.สุดารัตน์ แก้วขาว อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นห้อง มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่โหนกแก้ม 1 นัด ท้อง 5 นัด นอกจากนี้ ยังทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นชายหนุ่มอายุ 25 ปีถูกยิงที่ต้นแขนซ้ายและหน้าอกซ้าย 2 นัด หลังถูกยิงได้วิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และส่งไปรักษาตัวที่ไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อช่วงเช้าของวันนี้เวลาประมาณ 6 โมงเช้า นายไพสนธิ์ ได้เดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีลูกจ้างสาวกำลังจัดร้านอยู่หน้าร้าน นายไพสนธิ์ ได้เข้ามาถามหา น.ส.สุดารัตน์ ว่าอยู่ที่ไหน ก่อนที่ลูกจ้างจะบอกว่ายังอยู่ในห้องนอนชั้นบน ยังไม่ลงมา นายไพสนธิ์ จึงได้เดินขึ้นไปด้านบน ก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด และเห็นผู้ชาย วิ่งหนีลงมาในสภาพนุ่งกางเกงในเพียงตัวเดียว เลือดอาบร่าง มาขอความช่วยเหลือชาวบ้านให้พาส่งโรงพยาบาล   

 

ส่วนสาเหตุ ทราบว่านายไพสนธิ์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว และมีภรรยาอยู่แล้ว ก่อนที่จะมาคบหากับ น.ส.สุดารัตน์ นานกว่า 7 ปี กระทั่ง นายไพสนธิ์ มาลงทุนเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือให้กับน.ส.สุดารัตน์ ที่เป็นกิ๊กกัน ต่อมาระยะหลัง นายไพสนธิ์ ระแคะระคายว่า น.ส.สุดารัตน์ แอบมีชายอื่นซึ่งเป็นหนุ่มรุ่นน้อง จึงทำให้ทั้งสองมีปากเสียงกันค่อนข้างบ่อย จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ เช้าวันนี้ คาดว่า นายไพสนธิ์ น่าจะรู้ว่า ผู้ชายที่มาติดพันได้มาหา น.ส.สุดารัตน์ จึงมาดู และพบภาพบาดตาบาดใจ จึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมากระหน่ำยิง แต่ ผู้ชายที่แอบมาเป็นชู้ ได้รับบาดเจ็บ และพยายามพาร่างหนีไปได้อย่างทุลักทุเล  นายไพสนธิ์ จึงได้ใช้ปืนกระหน่ำยิง น.ส.สุดารัตน์ จนเสียชีวิตก่อนที่จะยิงตัวตายตามไปดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป