เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 14 ม.ค.65 ร.ต.ท.กิตติพงษ์ สีหบุตร รองสารวัตรเวร(สอบสวน) สภ..ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี  รับแจ้งว่าชุดสืบสวน ภ.จว. และชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้ทำการล่อซื้อยาบ้าจากพ่อค้ายาบ้ารายหนึ่งจากเขตพื้นที่ ต.ขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เข้ามาอยู่ ม.8 บ้านปรือวาย ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี   บนถนนสายปรือวาย-มาบเหียง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยตะเข็บติดต่อกัน  โดยคนร้ายเป็นชาย 1 รายขับรถจักรยานยนต์ yamaha แบบหญิงสีฟ้าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีจาก ต.เขาหินซ้อนมุ่งหน้าหนีเข้ามาบนถนนดังกล่าวเขตจ.ปราจีนบุรี 

 

 

เมื่อจวนตัวจึงจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ แล้ววิ่งหนีเข้าป่ามันสำปะหลัง หนีการติดตามชุดล่อซื้อและพร้อมกันยังใช้อาวุธปืนพกประจำตัวไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังติดตามตัวเพื่อเปิดทางเพื่อหลบหนี ชุดล่อซื้อได้ยิงป้องกันตัวกระสุนถูกคนร้ายหนีไปเสียชีวิตอยู่ในกลางป่ามันสำปะหลัง  ห่างจากถนน 50 เมตร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

 

 

ต่อมา พล.ต.ต.วินัย นุชชาผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี , พ.ต.อ.พงศ์อนันต์ รักษาชาติ ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ ชุดสืบสวนตำรวจฉะเชิงเทรา ฝ่ายปกครองรถตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์เวรฯนิติเวช รพ.ศรีมหาโพธิ  ได้เดินทางมาในที่เกิดเหตุ   พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมานายประกอบ หรือ เคหินซ้อน บุญสันธีย์ อายุ 36 ปี  เลขที่ 12หมู่ 15 ต.เขาหินซ้อน  อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา   นอนคว่ำหน้าตะแคงฝั่งซ้ายเสียชีวิตคาที่อยู่ในกลางป่ามันใส่เสื้อแขนสั้นสีเหลืองนุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน มีรอยกระสุนถูกยิงที่ชายโครงขวา ใต้ไหปลาร้าขวา  นอนเสียชีวิตอยู่ในกลางป่ามันจากการชันสูตรพลิกศพ   พบอาวุธปืนพกแบบออร์โตเมติก ขนาด 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดและเครื่องกระสุนอยู่ในรังเพลิง 12 นัด  และยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง (60-70 เม็ด)ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐาน  นำศพส่งผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป

 

 

พล.ต.ต.วินัย นุชชาผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวว่า รายละเอียดทั้งหมดนั้นยังไม่ทราบ   ทราบแต่เพียงเบื้องต้นว่าตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด จ.ฉะเชิงเทราได้ล่อซื้อยาบ้าจากผู้ตาย   แต่ผู้ตายไหวตัวทันหลบหนีเข้ามาในพื้นที่และใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางเพื่อต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ  เจ้าหน้าที่ได้ตอบโต้ยิงป้องกันตัวถูกผู้เสียชีวิตกลางป่ามันดังกล่าว

 

จากการสอบถามญาติของผู้ตายเป็นผู้หญิงคนหนึ่งขอสงวนชื่อและนามสกุลกล่าวว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ทำใจเพราะผู้ตายได้กระทำผิด   ก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ผู้ตายก็ได้เสียชีวิตไปแล้วไม่ขอพูดอะไรมาก