เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 27 ต.ค.65 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีฆาตกรรมสาวชงเหล้าทิ้งศพลอยน้ำ ที่คลองชลประทาน ท่าสาร-ยางปลา หมู่ 1 ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หลังจากที่ญาติของปุ๊ นำตัวผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจตามหาคือ  นายสมโชค (สงวนนามสกุล) หรือ “ปุ๊ ดอนรัก” อายุ 38 ปี อยู่ในพื้นที่ ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เข้าพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนรู้เห็นการเสียชีวิต โดยมี นายภานุเดช (สงวนนามสกุล) หรือโอ้ต อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นน้องชายของนายปุ๊ มาร่วมให้การด้วย โดยมีนางธัญญลักษณ์ (สงวนนามสกุล) หรือตูน อายุ 45 ปี พี่สาวนายปุ๊ มีผู้ใหญ่บ้าน ญาติพี่น้องมารอที่ศาลาข้างโรงพัก

ด้าน นางธัญลักษณ์ หรือตูน อายุ 45 ปี เปิดเผยว่า วันนี้พานาย ป. หรือ นายปุ๊ มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และมายืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง โดยบอกว่า ตนไม่ได้รู้จักกับผู้ตาย (ฟาริดา) แต่ก่อนหน้านี้ลูกชายตน เอารถไปจำนำกับเพื่อน แล้วเพื่อนเอาไปจำนำต่อกับนางสาวฟาริดา

โดยนายปุ๊มาบอกตน จึงปรึกษากันว่าจะทำไงดี เพราะตนก็กลัวว่าจะถูกเอารถไปใช้ในทางไม่ดี จนผู้ตายได้โทรศัพท์มาบอกว่า “ถ้าไม่เอาเงินมาให้ จะเอารถไปขาย” วันที่ 20 กันยายน จึงจ่ายดอกให้นางสาวฟาริดา จำนวน 500 บาท และวันที่ 21 กันยายน ก็เอาเงินสดไปไถ่รถคืนมา จำนวน 5,000 บาท ซึ่งก็เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวของผู้ตาย เห็นว่า นายปุ๊ ยื่นเงินให้นางสาวฟาริดา หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ และไม่ได้มีการติดต่อกันอีก ยอมรับว่าตกใจและงง ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้เลย

ในวันนี้ก็ได้เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าน้องชายไม่ได้เกี่ยวข้อง น้องชายเป็นคนดี เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ไปทำงานก่อสร้าง กลับบ้าน 2 อาทิตย์ครั้งบ้าง เดือนละครั้งบ้าง ในเมื่อน้องไม่ได้ทำ ก็ให้ตำรวจเห็น อยู่เฉยๆ เหมือนถูกเชื่อมโยงพร้อมยืนยันว่า ไม่มีการส่งเงินให้กัน เพราะน้องก็ทำมาหากินกันไปวันๆ ไม่ได้มีเงินมากมายอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการสอบปากคำ พล.ต.ต.ไพโรจน์ พร้อม พ.ต.อ.ธนะสิทธิ์ ปานศรี รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.ณัฐพิสิทธิ์ รัตนอุดมผล ผกก.สส.กก.1 บล.ภ.7 และ พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์  ผกก.(สอบสวน) ภ.จว.กาญจนบุรี ร่วม ได้ทำการสอบปากคำ “ปุ๊ ดอนรัก” ด้วยตนเองอย่างเคร่งเครียด ใช้เวลาสอบนานกว่า 3 ชม.

ต่อมา พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ สืบเรือง สารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี รวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนสอบสวนเดินทางไปศาลจังหวัดกาญจนบุรี  เพื่อขออนุมัติหมายจับ นายสมโชค (สงวนนามสกุล) ต่อมาศาลกาญจนบุรีอนุมัติหมายจับนายสมโชคในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยโดยเจตนา

ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อม พ.ต.อ.ธนะสิทธิ์ ปานศรี รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.ณัฐพิสิทธิ์ รัตนอุดมผล ผกก.สส.กก.1 บล.ภ.7 นำตัว นายสมโชค หรือ ปุ๊ ดอนรัก มาที่ห้องประชุม ศปก.สภ.ท่ามะกา โดย พล.ต.ต.ไพโรจน์ได้ แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งทางพ.ต.อ.ธนะสิทธิ์ได้อ่านหมายจับต่อหน้านายสมโชคและพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการนำตัวไปสอบสวนเพื่อทำการสืบสวนขยายผลต่อไป

หลังการแจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากทราบผลการชัณสูตรศพของนางสาวฟาริดา ทำให้ทราบว่าถูกทำร้ายเสียชีวิตจากการใช้ของมีคมเชือดคอจนหลอดลมขาดเสียชีวิต ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำพยานบุคคลผู้เกี่ยวข้องกับผู้ตาย จนล่าสุดวันนี้ได้ทำการสอบปากคำ นายสมโชค (สงวนนามสกุล) หรือ “ปุ๊ ดอนรัก” ผู้ต้องสงสัยที่มีความเกี่ยวข้องติดต่อทางโทรศัพท์เชื่อมโยงมาสอบสวน พบว่ามีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักพอที่น่าเชื่อว่า นายสมโชคเป็นผู้กระทำผิด จึงรวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี แบะได้อนุมัติหมายจับแล้ว จึงแจ้งข้อกล่าวหาแบะดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาต่อไป  

โดยพยานหลักฐานในการสอบสวนพบว่าผู้ตายมีการติดต่อกับผู้ต้องหาเป็นคนสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป และจากการสอบปากคำผู้ต้องหารับว่ามีการคบหากับผู้ตาย แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตาย แต่จากพยานหลักฐานและการสอบปากคำพยานบุคคลมีน้ำหนักเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาเป็นคนลงมือกระทำความผิดจึงขออนุมัติหมายจับและศาลได้พิเคราะห์แล้วจึงอนุมัติหมายจับผู้ต้องหารายนี่ หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนก็จำดำเนินคดีและรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องตามระเบียบกฎหมายต่อไป

หลังการแถลงข่าว เวลา 16.00 น. พนักสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมหมายค้น ได้เข้าค้นบ้านพักของ นายสมโชค โดยได้ทำการตรวจยึดมีดปลอกผลไม้ยาว 23 ซม.ที่บ้านพัก นำส่งตรวจพิสูจน์หาคราบเลือดต่อไป

ต่อมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจค้นเจอฝาหลังของโทรศัพท์สีแดงตกอยู่ตรงกองขยะจึงค้นหาต่อแล้วไป เจอตัวโทรศัพท์อยู่ในป่าใกล้กันประมาณ 5 เมตร เจอโทรศัพท์ห่างจากบ้านไปประมาณไม่เกิน 10 เมตร ถูกทิ้งไว้ในป่าหลังบ้าน คาดว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต เพราะแม่ผัวบอกผู้เสียชีวิตใช้โทรศัพท์สีแดง ซึ่งตรงกัน จึงทำการเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงนำส่งตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป