จากกรณีที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก แจ้งความว่า น.ส.แพรวศิญา อายุ 37 ปี ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี จว.ชลบุร หมายเลขประกาศรับจำนำรถยนต์ แล้วยักยอกเอารถยนต์ของผู้เสียหาย ที่นำรถยนต์ไปจำนำไว้ ไปลักลอบขาย โดยผิดกฏหมาย 

 

ต่อมา วันที่ 2 ธ.ค.2565 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2 รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.เมฒาวิศ ประดิษฐ์ผล รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ฯ  ปฏิบัติหน้าที่ ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ชนะไชย เกษมวงศ์  ผกก.สภ.เสม็ด จึงร่วมกัน วางแผนเพื่อจับกุมมาดำเนินคดี 

 

จนกระทั่ง พ.ต.อ.ชนะไชย ผกก.สภ.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี สืบทราบว่า นางสาว แพรวศิญา ผู้กระทำความผิดเดินทางมาที่ สภ.เสม็ด ตร.เสม็ด จึงนำหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ 583/2565 ลง 10 พ.ย.65 และหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีอื่นอีก รวม 25 หมาย พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม   โดนดำเนินคดีในข้อหา กระทำความผิด “ร่วมกันยักยอกทรัพย์และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ” นางสาว แพรวศิญา ให้การภาคเสธ และขอให้การในชั้นศาล  นำส่ง พงส.สภ.เสม็ด  เพื่อดำเนินคดีต่อไป จากนั้น ผู้ต้องหา ติดต่อให้ทนายความเดินทางมาร่วมฟังขอกล่าวหา เพื่อต้องการสู้คดี

 

พ.ต.อ.ชนะไชย กล่าวว่า ผู้ต้องหา พยายามขอประกันในชั้นสอบสวน แต่ตนเห็นว่า ผู้ต้องหากระทำความผิกหลายคดีหลายพื้นที่ มีผู้เสียหายเดือดร้อนจำนวนมาก จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัวในชั่นสอบสวน และจะรีบนำตัวส่งฝากขังศาล จ.ชลบุรี ในวันนี้ทันที ส่วนพื้นที่อื่นๆ ก็ให้ สภ.นั้นๆ เข้าไปแจ้งความต่อที่เรือนจำหญิงหรือทัณฑสถานหญิง จ.ชลบุรี ชลบุรีต่อไป

 

ส่วนการดำเนินคดี ปรากฏพบว่ามีการกระทำผิดตามที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ของประชาชน ในส่วนของ ภ.จว.ชลบุรี มีทั้งสิ้น 123 คดี ดังนี้ 1.สภ.เสม็ด จำนวน  104 คดี -ออกหมายจับ 54 หมาย 2.สภ.พานทอง จำนวน 9 คดี -ออกหมายจับ 9 หมาย 3.สภ.บ้านบึง จำนวน 1คดี -ออกหมายจับ 1หมาย 4.สภ.หนองขาม จำนวน 2 คดี -ออกหมายจับ 1หมาย 5.สภ.พนัสนิคม จำนวน 1คดี -ออกหมายจับ 0 หมาย 6.สภ.บ่อวิน จำนวน 5 คดี -ออกหมายจับ 5 หมาย 7.สภ.หนองปรือ จำนวน 1 คดี -ออกหมายจับ 0 หมาย 8.สภ.แหลมฉบัง จํานวน 1คดี ออกหมายจับ 0 หมาย 9.สภ.เมืองชลบุรี จํานวน 1คดี -ออกหมายจับ 0หมาย  รวม 125 คดี ออกหมายจับ 73 หมาย

 

ซึ่งขณะนี้ผู้ที่ถูกออกหมายจับ มีจำนวน 7 ราย และถูกจับกุมได้ครบทุกคนแล้ว โดยได้มีการตรวจยึดรถยนต์ ไว้ที่ สภ.เสม็ด จำนวน 3 คัน และ ตรวจยึดโดยกองปราบปรามในพื้นที่ต่างๆ จำนวน 64 คัน จากนี้จะได้ติดตามรถยนต์คืนให้แก่ผู้เสียหายพร้อมทั้งการขยายผลดำเนินคดีกับนายทุนและผู้เกี่ยวข้องต่อไป