วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 13:04 น.

อาชญากรรม

ออกหมายจับ 2 ผู้ก่อเหตุร่วมวงดวลปืนงานแต่ง ตามจับแล้ว 1 มือไล่ล่าอีก 1 มือยิง

วันอาทิตย์ ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2566, 13.28 น.
ความคืบหน้ากรณีเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงต่อสู้กันที่ลานจอดรถ ขณะที่มีงานแต่งงานจัดในโรงแรมแห่งหนึ่ง ถนนเลี่ยงเมือง หมู่ 3 ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 28 เมษายน ระหว่างนายภาณุพงศ์ หรือเดี่ยว หรือแผน สุวรรณสินธุ์ อายุ 35 ปี ชาว ต.คลองไทร อ.ท่าฉาง เซียนพระชื่อดังฉายา “ขุนแผน สุราษฎร์” กับนายวิรัช หรือเจน สุดภักดี อายุ 39 ปี ชาว ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ เจ้าของสถานบันเทิงผับชื่อ “ทองหล่อ” อยู่ใน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และเจ้าของกิจการรถยก “เจน สไลออนด์” ปรากฏเสียชีวิตทั้งคู่และมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บอีก 2 ราย ชื่อ น.ส.กานต์สิริ หรือแพท ติ้วต้ง (สุวรรณสินธุ์) อายุ 30 ปี อดีตภรรยานายภาณุพงศ์ ถูกยิงที่ขาขวากระดูกแตก และ น.ส.ธนัยธร หรือบอลลูน ลื่อเท่ง อายุ 20 ปี แฟนใหม่นายภาณุพงศ์ ถูกยิงที่ขาซ้าย ซึ่งเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ที่มีการพกพาอาวุธปืนไปในงานที่มีผู้คนจำนวนมากและใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ในสถานที่ชุมชนอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย นั้น
 
จนกระทั่งพล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภาค 8 เดินทางมาติดตามคดีและร่วมกับ พล.ต.ต.ศรัญญู ชํานาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ประชุมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนให้เร่งและรวบรวมพยานหลักฐานให้ดำเนินคดี เนื่องจากแต่ละฝ่ายมีอาวุธปืนและเป็นการก่อเหตุในลักษณะเหิมเกริมบ้านป่าเมืองเถื่อนท้าทายกฎหมายอย่างมาก โดยที่ประชุมใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง
 
ต่อมาศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้อนุมัติหมายจับที่ จ 168/2566 ลงวันที่ 29 เม.ย.66 ให้จับกุมนายพงศกร หรือต๋อง ผู้ที่นำอาวุธปืนขนาด 11 มม.ของนายภาณุพงศ์ หรือเดี่ยว หรือแผน ไปทิ้ง ในข้อหากระทำผิดฐาน ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายพงศกร หรือต๋อง ไว้ได้ก่อนแล้วและพาไปค้นหาอาวุธปืนบริเวณพงหญ้าป่าละเมาะริมถนนเลี่ยงเมือง ฝั่งไปสี่แยกตาปาน ก่อนถึงทางเข้าโรงแรม ประมาณ 70 เมตรโดยพบอาวุธปืนขนาด 11 มม.ของของนายภาณุพงศ์ หรือเดี่ยว หรือแผน อยู่ในพงหญ้า ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
 
นายพงศกร กล่าวว่า ตนนำอาวุธปืนมาทิ้งด้วยความตกใจ ฝั่งตนก็ถูกยิงเหมือนกัน โดยฝั่งนายวิรัช หรือเจน เป็นคนยิงเข้ามา เหตุการณ์ตอนนั้น ตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนยิงก่อน และตนไม่ใช่คนยิง เขาดวลกันและมีคนยิงเป็นมือที่ 3ต่อมา การสืบสวนพบว่า กลุ่มที่ร่วมก่อเหตุของฝั่งนายวิรัช หรือเจน มากันหลายคนเป็นกลุ่มบ่อกรัง ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย
 
วันที่ 30 เม.ย. 66 ล่าสุดทางชุดสืบสวนสืบทราบว่าจนรู้ตัวมือที่ 3 แล้วและศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุเพิ่มอีก 1 คนตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ 169/2566 ให้จับกุมนายนพดล (เจมส์)พัฒน์แช่ม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและความผิดตาม พรบ.อาวุธปืน เนื่องจากการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องและพยานบุคคลในที่เกิดเหตุจนทราบว่า นายภาณุพงศ์ ได้ใช้ปืนขนาด 11 มม.ยิงนายวิรัช จนเสียชีวิต และถูกมือที่3 คือ นายนพดล (เจมส์) พัฒน์แช่ม เพื่อนของนายวิรัชที่มางานเลี้ยงงานแต่ง เมื่อเห็นนายภาณุพงศ์ (ขุนแผน) ยิงเพื่อนชีวิตจึงได้ใช้ปืนขนาด 9 มม.ที่ติดตัวยิงใส่นายภาณุพงศ์จนเสียชีวิตเช่นกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่กำลังไล่ล่าจับกุมและยังเชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในพื้นที่.

หน้าแรก » อาชญากรรม