วันที่ 7 กันยายน 2566 เวลา 13.00 น. ร.ต.อ.คงฤทธิ์ พลศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม นำตัวนายสันติ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาใช้ท่อนไม้ฟาดท้ายทอยนายดาว ฝ่ายอินทร์ อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา บริเวณร้านตัดผมแห่งหนึ่ง บ้านคำธาตุ หมู่ 8 ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมฝากขังผัดแรกกับศาลจังหวัดนครพนม

ขณะสิบเวรนำตัวนายสันติออกจากห้องควบคุม ได้ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า ไม่ได้ตั้งใจจะตีนายดาวจนเสียชีวิต เพราะแค่เอาท่อนไม้ฟาดหยอกๆ ไม่เคยว่าจะไปโดนจุดสำคัญ จนเลือดคั่งในสมอง และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนครพนม

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 76 หมู่ 8 บ้านคำธาตุ ต.หนองญาติ ซึ่งเป็นบ้านของนายดาวผู้ตาย และญาติได้เคลื่อนศพไปฌาปนกิจที่ป่าช้าแล้ว พบเพื่อนบ้านและญาติๆ ช่วยกันปรุงอาหารรอต้อนรับแขกที่กลับจากเผาศพ ขณะที่ในบ้านมีผู้สูงวัย ช่วยกันจัดพานบายศรี โดยมีนางลำใย ฝ่ายอินทร์ อายุ 75 ปี แม่ของนายดาว เปิดเผยรายละเอียดว่า นายสันติมีศักดิ์เป็นลูกเขยตน ปลูกบ้านอยู่ในเนื้อที่เดียวกัน ห่างไม่เกิน 25 เมตร ส่วนนายดาวเป็นลูกชายของตน ทั้งสองเหมือนคู่แฝดไปไหนก็ไปด้วยกัน ตกเย็นก็จะซื้อเหล้ามาดื่ม เวลาเมาจะมีปากเสียงเถียงกันประจำ ชาวบ้านในละแวกนี้ รวมถึงญาติพี่น้องรู้ดี รุ่งเช้าพอสร่างเมาก็ออกไปทำงานรับจ้างด้วยกันเสมอ ไม่คิดว่าจะหยอกล้อกันขั้นรุนแรงจนเสียชีวิต ยอมรับว่าเสียใจ และไม่ติดใจในสาเหตุการตายของลูกชาย

ส่วนเพื่อนบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ทั้งนายสันติพี่เขยกับนายดาวน้องเมีย ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน แถมเข้ากันได้ดี แต่พอเหล้าเข้าปากจะถกเถียง ในเรื่องต่างคนไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายพอสร่างเมาก็ไปทำงานด้วยกัน เห็นแบบนี้จนชินตา

เหตุการณ์ดังกล่าว  เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566 เวลาประมาณบ่ายสามโมง ที่หน้าร้านตัดผมในหมู่บ้าน นายดาวผู้ตายตั้งวงดื่มเหล้ากับเพื่อนอีก 3 คน โดยแต่ละคนนำพระเครื่องที่ตนได้มาส่องดู ปรากฎว่ามีนายสันติพี่เขยเดินถือท่อนไม้ยาวประมาณ 1 เมตร ทราบภายหลังว่าเป็นกิ่งไม้พยุง ด้านบนมีลักษณะโค้งงอ เหมือนไม้เท้ายาจกซู ตัวละครดังในนิยายจีนนายดาวเห็นนายสันติพี่เขย ก็ก้มรินเหล้าเพื่อจะส่งให้ดื่ม แต่นายสันติกลับยกท่อนไม้ฟาดเข้าที่ท้ายทอยนายดาวจนกระเด็นตกเก้าอี้ เพื่อนๆที่อยู่บริเวณนั้นตกใจ แต่นายดาวบอกว่าไม่เป็นไร ตนกับพี่เขยเป็นแบบนี้ประจำ จากนั้นก็กลับเข้าบ้าน และก็ไม่ได้ลุกขึ้นมากินข้าวกินน้ำ ในขณะที่ญาติก็คิดว่านายดาวเมาค้าง

กระทั่งช่วงสายของวันที่ 3 กันยายน 66 เพื่อนมาเรียกนายดาวไปกินเหล้า แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เมื่อเข้าไปในห้องพบว่านายดาวตัวซีดเหลือง พูดไม่ได้แล้ว จึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่กู้ชีพ เทศบาลหนองญาติ นำตัวส่ง รพ.นครพนม แพทย์รีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เอ็กซเรย์โดยละเอียดพบว่าบริเวณท้ายทอยมีเลือดคั่งอยู่ในสมอง และต้องใช้เครื่องหายใจตลอดเวลา แต่ไม่สามารถเยื้อชีวิตนายดาวได้ จึงเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 5 กันยายน พนักงานสอบสวนจึงไปนำตัวนายสันติพี่เขยมาสอบปากคำ พร้อมรับสารภาพว่าใช้ท่อนไม้ตีน้องเมียจริง ไม่คิดจะทำร้ายจนถึงตาย แต่อาจเป็นเพราะด้านโค้งงอของไม้ฟาดไปโดนจุดสำคัญ นายสันติบอกกับพนักงานสอบสวน ว่า รู้สึกเสียใจที่ลงมือหนักจนน้องเมียเสียชีวิต