วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 13:44 น.

อาชญากรรม

จนท.สาว อบต.หายตัวปริศนากว่า 1 สัปดาห์ ระดมกำลังค้นหา

วันศุกร์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566, 13.27 น.

จากกรณี น.ส.กวินณา บุณเมศวร์ หรือ ฝน อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานีได้หายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 13 พฤศจิกายน 66 ที่ผ่านมา ญาติและหน่วยงานต้นสังกัดได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งค้นหา  โดยขณะนี้เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้วยังไม่มีความคืบหน้าและไร้เบาะแส จึงมีความหวั่นวิตกว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้น
       

โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลเพิ่มพูนทรัพย์ หรือ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ พบกับเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ได้จับกลุ่มคุยถึงเรื่องการหายตัวของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว โดยนายวสัญ ช่วยพัฒน์ เลขานุการ นายก อบต.ระบุว่า น.ส.กวินณา หรือ ฝน บุณเมศวร์ ตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ ประจำ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 13 พ.ย.66 ที่ผ่านมาก็เดินทางมาทำงานตามปกติ และกลับบ้านในเวลา 18.00 น. แต่วันรุ่งขึ้นก็ไม่ได้เดินทางมาทำงานและขาดการติดต่อ เพื่อนๆที่ทำงานโทรศัพท์ติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากโทรศัพท์ถูกปิดเครื่อง
 

เมื่อไปสอบถามอดีตสามีของ นส.กวินณาที่บ้านพักที่อยู่ห่างจาก อบต.ไปประมาณ 200 เมตรก็ได้รับแจ้งว่า นส.กวินณา ไม่อยู่บ้านไม่รู้ว่าหายไปไหน ซึ่งหลังจากขาดการติดต่อและขาดงานไป 2 วัน ทาง นายก อบต.ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านนาสาร ให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยติดตามเนื่องจากเกรงจะเกิดเหตุร้ายขึ้น
 
 
เพื่อนๆที่ทำงานต่างบอกว่า ฝน เป็นคนร่าเริงไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใครมาก่อนจึงไม่น่าจะมีใครปองร้าย แต่ก่อนหน้านี้ ตัว น.ส.กวินณา ได้หย่าร้างกับสามี ที่อยู่กินกันมานานกว่า 10 ปีได้ประมาณ 3 เดือน แต่ก็ยังอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน
 
 
ด้านเพื่อนสนิทของฝนคนหนึ่ง บอกเล่าว่า ตัว น.ส.กวินณา ได้ไปซื้อบ้านหลังใหม่ในพื้นที่ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และเตรียมขอย้ายที่ทำงานจาก อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ ไปอยู่ที่ อบต.ขุนทะเล เนื่องจากอดีตสามีมีพฤติกรรมหึงหวงตัว น.ส.กวินณา มากและมักใช้อารมณ์ ซึ่งระยะหลังก็มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง จนถึงขอย้ายที่ทำงานและหย่าร้างกัน
    

ขณะที่ พ.ต.อ.วิทย์ทวี ภริตานนท์ ผกก.สภ..บ้านนาสารให้ข้อมูลว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ขุนทะเลและ สภ.บ้านนาสาร โดยการสอบปากคำอดีตสามีที่ได้ให้การว่า ในคืนวันที่ 13 พ.ย.66ได้ขับรถยนต์กระบะมาส่งอดีตภรรยาที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่กำลังไล่กล้องวงจรปิดเพื่อนำมาประกอบกับคำให้การของบุคคลที่เกี่ยวข้อง และได้ขอความร่วมมือเพื่อนๆของผู้สูญหายมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อเร่งคลี่คลายปมการหายตัวไป
 

ด้าน นางสุพิตร์ พัฒน์มาก อายุ 76 ปี แม่อดีตสามี เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่บ้านในสวน ส่วนบ้านนี้มีลูกชายและเมียพร้อมลูกๆอาศัยอยู่กัน การหย่าร้างระหว่างลูกชายกับลูกสะใภ้ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เรื่อง มารู้จากหลังเกิดเหตุลูกชายมาเล่าให้ฟัง ซึ่งทั้งคู่อยู่กินกันมา 10 กว่าปีมีลูกด้วยกันถึง 3 คนและไม่เคยคิดว่าทั้งคู่จะมาหย่ากัน ซึ่งก่อนหน้านี้เห็นทั้งคู่ก็รักกันดีต่างช่วยกันทำมาหากินและในคืนวันที่ 13 พ.ย.66 ลูกชายบอกว่า อดีตลูกสะใภ้จะขับรถเก๋งออกไปในเมือง แต่ลูกชายได้ห้ามและขอเป็นคนขับรถกระบะคันแดงไปส่งเอง ซึ่งลูกชายอ้างว่าห่วงความไม่ปลอดภัยของอดีตภรรยา ดังนั้นจึงมั่นใจว่าลูกชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของอดีตลูกสะใภ้
 
          
ในขณะเดียวกันผู้นำชุมชนและชาวบ้านออกค้นหาตามสถานที่ต้องสงสัยว่าหากเกิดเหตุร้ายขึ้น ร่างของผู้สูญหายอาจนำมาทิ้งลงในบ่อน้ำในพื้นที่เพื่ออำพรางคดี ซึ่งชาวบ้านพบบ่อน้ำแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.1 มีร่องรอยต้องสงสัยจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจ แต่จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติ  และทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังได้นำสุนัขร่วมค้นหาในพื้นที่ต้องสงสัยอีกด้วย แต่ไม่พบเช่นเดียวกัน
 
          
ส่วนทางด้านตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ โดยสรุปใจความว่าทาง พลตำรวจโทสุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้กำชับให้ชุดสืบสวนทุกหน่วยบูรณาการกำลังในการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว เนื่องจากมีความผิดปกติและญาติพี่น้องของผู้สูญหายให้ความสนใจ หากใครมีเบาะแสให้แจ้งข้อมูลได้ที่ พ.ต.อ.วิทย์ทวี ภริตานนท์ ผกก.สภ.บ้านนาสาร โทร.086 4792232 และ พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร. 0993515364 หรือ โทร.191

 

หน้าแรก » อาชญากรรม