ความคืบหน้ากรณี น.ส.กวินนา บุณเมศวร์ หรือ ฝน อายุ 38 ปี ข้าราชการท้องถิ่นตำแหน่ง นักวิเคราะห์นโยบายและแผน ชำนาญการ อบต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ ธานี หายตัวลึกลับจากบ้านหมู่ 1 ต.เพิ่มพูนทรัพย์ อ.บ้านนาสาร เป็นเวลาร่วม 12 วันตั้งแต่คืนวันที่ 13 พ.ย.66 นั้น

โดยวันที่ 25 พ.ย. 66 ตำรวจชุดสอบสวนคลี่คลายคดีได้นำตัว นายประสิทธิพร พัฒน์มาก อายุ 39 ปี อดีตสามีที่หย่าร้างกับ น.ส.กวินนา ผู้สูญหาย แต่ยังพักอยู่บ้านเดียวกันมาสอบปากคำอย่างต่อเนื่อง หลังจากนำไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบ้านนาสาร เพื่อหาหลักฐานบางอย่าง เนื่องจากเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับ น.ส.กวินนา ก่อนหายตัวแต่ยังไม่พบหลักฐานข้อบ่งชี้ว่าจะเกิดอันตราย

ต่อมา ตำรวจได้พบหลักฐานจากภาพวงจรปิดเวลาประมาณ 07.25 น.วันที่ 14 พ.ย.66 นายประสิทธิพร ใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีแดงของตัวเองบรรทุกฟูกที่นอนเก่าจากที่บ้านไปทิ้ง ซึ่งเป็นวันรุ่งขึ้นหลังจาก น.ส.กวินนา หายตัวไป โดยได้มอบให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ไปตรวจสอบฟูกที่นอนเพื่อรวบรวมหลักฐาน

นอกจากนี้ ตำรวจได้สอบสวนพบนายประสิทธิพร ให้ข้อมูลมีความขัดแย้งกัน โดยเบื้องต้นระบุว่า คืนวันที่ 13 พ.ย.66 เวลาประมาณ 21.00 น.ได้ขับรถกระบะคันสีแดง ไปส่ง น.ส.กวินนา ที่ถนนนิคมสร้างตนเองขุนทะเล ซอย 9 ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อรับงานตรวจเอกสารวิทยานิพนธ์ให้นักศึกษา แต่ให้สัมภาษณ์ว่าไปส่งตอนดึกและกลับเข้าบ้านเวลา 02.30 น.

ต่อมาเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนในพื้นที่ ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้พบศพผู้หญิงลักษณะคล้าย น.ส.กวินนา ถูกโบกทับด้วยปูนซีเมนต์บริเวณพื้นที่ว่างเปล่าในถนนนิคมสร้างตนเองขุนทะเล ซอย 3 จึงให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจที่เกิดเหตุเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ.และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันตัวบุคคล

ต่อมาเวลา 19.00 น.ตำรวจร่วมสอบปากคำนายประสิทธิพร จนยอม เปิดปากรับสารภาพว่า ได้ฆ่า น.ส.กวินนา อดีตภรรยาเสียชีวิต โดยคืนเกิดเหตุนำร่าง น.ส.กวินนา มาทิ้งที่บริเวณปากท่อระบายน้ำริมถนนแล้วใช้ใบกล้วยปิดคลุมไว้ วันรุ่งขึ้นได้ย้อนกลับนำปูนซีเมนต์มาโบกเททับศพ น.ส.กวินนา เพื่อปิดบังอำพราง ซึ่งสอดคล้องกับการสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางไปยังจุดที่พบศพ โดยพบรถเก๋งต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ วิ่งมาในเส้นทางดังกล่าว จึงคุมตัวนายประสิทธิพรไว้ทันที.