วันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:01 น.

อาชญากรรม

ผญบ.เล่าก่อน“หมวดอี๊ด”ถูกแทงดับ คลาดกันแค่ 10 นาที เสียดายตร.น้ำดี

วันอังคาร ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 08.22 น.

คืบหน้า คดีนายอานุเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายแทง ร.ต.ท.อิสราวุฒิ โกพลรัตน์ หรือหมวดอี๊ด อายุ 56 ปี รอง สวป.สภ.ธาตุพนม ตำรวจประจำตู้ยาม ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม เสียชีวิตที่แคร่หน้าบ้านเลขที่ 89 หมู่ 9 บ้านโชคอำนวย ต.อุ่มเหม้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ค.ที่ผ่านมา

 


ล่าสุด นายศุภชัย พ่วงศิริ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านโชคอำนวย ต.อุ่มเหม้า เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ยอมรับได้สูญเสียนายตำรวจน้ำดี ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือดูแลชุมชนมาตลอด ซึ่งหมวดอี๊ดเป็นนายตำรวจที่มีความใกล้ชิดกับชาวบ้าน สามารถเรียกใช้ตลอดเวลา

 

 

“วันเกิดเหตุผมได้รับแจ้งจากชาวบ้าน และญาติคนก่อเหตุคือนายเดช ลูกบ้านที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานานหลายปี เคยส่งตัวไปบำบัดรักษา แต่สุดท้ายออกมาก็หวนกลับไปเสพอีก พี่สาวสุดทนเคยแจ้งตำรวจมาจับดำเนินคดีติดคุกเกือบ 2 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาช่วงต้นปี และกลับไปเสพยาบ้าอีก โดยผมประสานไปยังหมวดอี๊ด เพื่อเข้าไประงับเหตุลูกบ้านจิตหลอนคลุ้มคลั่ง และเพื่อความปลอดภัย ผมบอกว่าให้รอเข้าพร้อมกัน แต่หมวดอี๊ดยืนยันว่า สามารถเจรจาเกลี้ยกล่อมได้ เพราะปกติคุ้นเคยกันมาระงับเหตุตลอด ทำให้ผู้ตายเชื่อใจว่า คนร้ายจะไม่ทำร้ายรุนแรง แต่คลาดกันไม่ถึง 10 นาที ผมรีบตามเข้าไปดู เพราะมีคนแจ้งว่าคนร้ายวิ่งหนีออกมาจากบ้าน ก่อนไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านริมถนนขับหนีไป พอเข้าไปดูจุดเกิดเหตุพบว่าหมวดอี๊ด นอนจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว สภาพศพถูกแทงตามร่างกายและถูกฟัน มั่นใจว่าคนก่อเหตุเมายาบ้าขาดสติ ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมได้ และมีการปลุกปล้ำต่อสู้กัน หากไปหลายคนอาจจะปลอดภัย แต่ยอมรับว่าเป็นการทำหน้าที่ดีที่สุดของหมวดอี๊ด เพราะเคยดูแลคนร้ายเป็นปกติ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุสูญเสียแบบนี้ ยอมรับเสียดายตำรวจน้ำดี คนทำงานเพื่อประชาชน”

 


ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ยืนยันปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เคยละเลย พยายามประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแล คัดกรองนำไปบำบัดรักษาตลอด สุดท้ายกลับมาเสพอีก บางครั้งตำรวจ หรือฝ่ายปกครองไม่สามารถควบคุมตัวได้ เพราะขาดความพร้อม รวมถึงบทลงโทษทางกฎหมายที่ไม่รุนแรง ทำได้แค่ระงับเหตุ ยอมรับยาบ้าในพื้นที่ระบาด แต่มีปัญหาเรื่องความอ่อนแอของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งเรื่องงบประมาณ กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ รวมถึงขาดความร่วมมือกับประชาชน ไม่มีความมั่นใจในการแจ้งเบาะแส กังวลเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้อง แจ้งเบาะแสไปเกิดอันตราย ไม่มีใครรับผิดชอบ ทำให้เป็นปัญหาสังคม ทางออกตนมองว่าหากจะแก้ไข ต้องจัดสรรงบประมาณเพิ่มให้กับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในการแจ้งเบาะแส สำคัญที่สุดจะต้องแก้กฎหมายเพิ่มบทลงโทษ ทั้งผู้ค้าผู้เสพต้องรับโทษหนัก เพราะปัจจุบันลูกหลานเยาวชน เสพทั้งยาบ้า กัญชา กระท่อม เอาผิดไม่ได้ หากทำรุนแรง เจ้าหน้าที่กลายเป็นคนผิด สำหรับนายตำรวจที่เสียชีวิต อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลสวัสดิการ ทุกด้านโดยเฉพาะครอบครัว ต้องได้รับการดูแลในระยะยาว จนครอบครัวมีความมั่นคง เกี่ยวกับความเป็นอยู่ มีงาน มีอาชีพ ไม่ใช่แค่ปูนบำเหน็จ

หน้าแรก » อาชญากรรม