เจ้าหน้าที่ตำรว กก.4 บก.ปทส. , เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.สส.ภ.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมทอง , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอจอมทอง , เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้เชียงใหม่ 3 , เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ชม.14 และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง ได้ตรวจสอบรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน ยข 1014 เชียงใหม่ หลังจากเจ้าหน้าที่สกัดจับนายเอกสิทธิ์ หรือตา (ปิดนามสกุล)อายุ 42 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านตาล อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ คนขับรถกระบะคันกังกล่าวได้ที่ บริเวณหน้าวัดแท่นคำ ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ขับรถไล่จับกุมรถคันดังกล่าวบนถนนเชียงใหม่-ฮอด ตั้งแต่พื้นที่ อ.ดอยหล่อ ซึ่งจากการตรวจสอบรถกระบะคันดังกล่าวพบว่าได้ตกแต่งเป็นรถบรรทุกติดตั้งคอกบนกระบะ และมีลังผัก ผลไม้ทับผ้าเต็นท์อยู่ ซึ่งจากการตรวจค้น ไม้ประดู่ แปรรูปขนาดใหญ่รวม 19 แผ่นซุกซ่อนอยู่ ระหว่างนั้นนายเอกสิทธิ์ฯ ให้การวกวน มีกิริยาอาการลุกรี้รุกรน กระวนกระวายเจ้าหน้าที่ จึงได้นำตัวนายนายเอกสิทธิ์ฯ ไปตรวจหาสารเสพติดพบผลเป็นบวก จึงนำตัวไปสอบสวน 

นายเอกสิทธิ์ ยอมรับว่า ตนได้เดินทางไปรับไม้ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้ไปพักอยู่ที่บ้านพักของทหารรายหนึ่งพื้นที่ ต.แม่นาเติง อ.ปาย ซึ่งนาย บอมฯ เป็นคนหาไม้ประดู่ล็อต ดังกล่าวมาให้ตนขนไปกองไว้ที่ป่าในท้องที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ จนมาถูกจับ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ฐาน มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ , รับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสีย ซึ่งไม้หรือของป่าฯ , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และขับขี่รถยนต์ในขณะมีสารเสพติดอยู่ในร่างกายโดยผิดกฎหมาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.จอมทอง ดำเนินคดีต่อไป 

ด้านพล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำและสัตว์ป่าแห่งสหรัฐอเมริกา (Unied States Fish and Widlife Service (USFWS หรือ FWS) ซึ่งมีนโยบายร่วมกันในการสืบสวนและปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศ และการลักลอบค้าไม้หวงห้ามมีค่าข้ามชาติ จึงได้สั่งการ พ.ต.อ.ฌัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4 บก.ปทส. เข้มงวดในการจับกุมขบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าและไม้หวงห้ามข้ามชาติ ซึ่งจากการข่าวพบว่ามีขบวนการค้าไม้หวงห้ามมีค่าโดยผิดกฎหมายและทำเป็นขบวนการค้าไม้ข้ามชาติโดยมีบุคคลต่างด้าวเป็นนายทุน จึงได้ติดตามพฤติการณ์ของนายเอกสิทธิ์ฯ และสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานจนจับกุมตัวได้ในที่สุด ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ขยายผลจากการตรวจจับครั้งนี้ว่าเกี่ยวข้องบุคคลที่เกี่ยวข้องหากพบการเชื่อมโยงก็จะมีการดำเนินการตามความผิดกฎหมายฟอกเงินต่อไป