จากกรณีเพจสายไหมต้องรอด โพสต์ข้อความสุดอื้อฉาว ระบุว่านักเรียนหญิง ม.5 ขี่รถจักรยานยนต์ ไปเรียนกับน้อง ถูกตำรวจเรียกตรวจ พบไม่มีใบขับขี่ ตำรวจเรียกเงิน 2,000 บาท น้องไม่มีจ่าย จึงถูกพาไปข่มขืนข้างโรงพัก โดยนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้ประสานไปยัง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เบื้องต้นพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ สั่งให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยให้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวคดีอาญา กับตำรวจ 1 นาย เป็นตำรวจยศ ร.ต.อ. พื้นที่ สภ.ป่าติ้ว และได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะเป็นพฤติกรรมที่เลว ชั่วช้า และมีมูลความจริง ส่วนนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ได้ประสานให้ส่งตรวจร่างกาย ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และวันนี้จะทำการสอบปากคำ ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ

ล่าสุดวันที่เวลา 12.00 น. วันที่ 30 มกราคม ที่ สภ.ป่าติ้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต. ภิรมย์ สวนทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร พ.ต.อ.อนุภาพ ผิวอ่อน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร และพ.ต.อ.ชวภณ จันทเมนชัย ผกก.สภ.ป่าติ้ว กำลังนั่งสอบสวนข้อเท็จจริงกับผู้ก่อเหตุคือ ร.ต.อ.กัมปนาท พิมพ์ภู รอง สว.(สอบสวน)หรือผู้กองแอ็ด สภ.ป่าติ้ว ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร 

ต่อมาเวลา 13.00 น.พ.ต.อ.สานิตย์  ให้แถลงเกี่ยวกับข้อเท็จจริงว่าเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ. หรือรองสารวัตรปฎิบัติหน้าที่งานจราจร ได้ขับรถออกปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจงานจราจร กระทั่งมาพบนางสาวเอ นามสมมุติ อายุ17 ปี  ขับรถจักรยานยนต์มากับเพื่อน 2 คน รองสารวัตรจึงขับขับรถแซงขึ้นไปจากนั้นจึงเรียกผู้เสียหายให้จอด จากนั้นจึงตรวจสอบพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาไม่สวมหมวกนิรภัยและไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 

จากการสอบถามรองสารวัตร ทราบว่าได้พาผู้เสียหายไปข่มขืนจริง จากนั้นในช่วงเย็นน้องเอ ผู้เสียหายพร้อมผู้ปกครองได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ป่าติ้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาน้องผู้เสียหายไปตรวจร่างกายแล้วและขณะนี้ทีมสหวิชาชีพกำลังร่วมสอบปากคำผู้เสียหาย ส่วนการดำเนินคดีจะแจ้งข้อกล่าวหากับรองสารวัตรคนดังกล่าวว่า พรากผู้เยาว์ อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และข่มขื่นกระทำชำเร้าผู้อื่นโดยใช้กำลังขู่เข็ญโดยใช้กำลังประทุษร้าย ส่วนน้องผู้เสียหายขณะนี้อยู่ในอาการโศกเศร้าและสะเทือนใจโดยมีคุณแม่มานั่งปลอบใจอยู่เคียงข้างตลอด ส่วนทางตำรวจก็ขอแสดงความเสียใจต่อน้องผู้เสียหายและครอบครัวด้วยครับ

อย่างไรก็ตามหลังจากแจ้งข้อกล่าวหารองสารวัตรเสร็จก็จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดยโสธรต่อไป นอกจากนี้พล.ต.ต. ภิรมย์ สวนทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ยังเน้นย้ำว่าให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดและสั่งมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจุดที่รองสารวัตรพาน้องไปข่มขื่นคือด้านหลังศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.)อำเภอป่าติ้ว ซึ่งเป็นห้องเก็บของด้านในห้องยังพบมีคราบรอยเท้าติดบนพื้น อย่างไรก็ตามได้สอบถามเจ้าหน้าที่ กศน.ทราบว่าในวันที่29 ม.ค.ที่ผ่านมาไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ที่ศูนย์เนื่องจากไปร่วมแข่งขันกีฬาที่จังหวัดอุบลราขธานี  นอกจากนี้จุดที่รองสารวัตรเรียกตรวจน้องผู้เสียหายคือถนนอรุณประเสริจ ปากทางเข้ากศน.จากนั้นรองสารวัตรได้พาผู้เสียหายเดินไปจุดห้องเก็บของที่ใช้ข่มขื่นโดยห่างจากปากทาง100 เมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นศูนย์ราชการ