วันเสาร์ ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 09:02 น.

อาชญากรรม

ลูกชาย “เสี่ยดำช่องจอม” เผยคนร้ายยิงพ่อต่อหน้า

วันจันทร์ ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2567, 13.29 น.

อำเภอกระสัง / ลูกชายเสี่ยดำช่องจอม เจ้าของค่ายมวยที่ถูกยิงตายคารถ เผยเดินตามหลังพ่อ คนร้ายมาถึงแง้มประตูแล้วยิงต่อหน้า ก่อนจะเดินไปหน้ารถอย่างใจเย็น ภรรยาเผยสามีไม่เคยมีปัญหากับใคร ประกอบธุรกิจเล็กๆ ขายน้ำดื่ม และดูแลตลาดช่องจอมให้นาย ขณะผู้การฯเผยกำลังรวบรวมพยานหลักฐานหาแรงจูงใจ ไม่ทิ้งทุกประเด็น

 


วันที่ 22 เม.ย.67 กรณีนายเปลี่ยนวิถี หรือเสี่ยดำ ต้องถือดี อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.13 ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เป็นเจ้าของค่ายมวยอยู่ที่ จ.สุรินทร์ ถูกร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะและท้ายทอย เสียชีวิตภายในรถตู้ยี่ห้อฮุนได สีเทา ทะเบียน 2AW- 7518 เป็นรถมาจากประเทศกัมพูชา


ลักษณะเอนเบาะนอนฝั่งคนขับ (ด้านซ้าย) ระหว่างนำนักมวยมาชกที่งานฉลองพัดยศของเจ้าอาวาสวัดหนองเต็ง ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.(22 เม.ย.)

 


ความคืบหน้า ล่าสุด ด.ช.เอ (นามสมมุติ) ลูกชายเสี่ยดำ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนพานักมวย 2 คนมาชกที่ อ.กระสัง ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 04.00 น.พ่อพาตนจะไปพักที่รถตู้ พ่อเดินนำหน้ามาส่วนตนเดินตามหลังพ่อ


เมื่อมาถึงที่รถพ่อได้เปิดประตูขึ้นไปเอนเบาะนอน ส่วนตนเองกำลังจะเลือนประตูขึ้นทางเดียวกับพ่อเพื่อขึ้นไปบนรถ ทันใดนั้นได้มีคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อแขนยาวสีออกเขียว สวมหมวก เดินมาแง้มประตูรถพ่อแล้วจ่อยิงต่อหน้า ตกใจมากทำอะไรไม่ถูกกระทั่งมีคนวิ่งมาดูกัน ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบแต่ไม่ได้มีเรื่องกับใครในงาน

 


นางนิตยา ต้องถือดี อายุ 46 ปี ชาวอ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า สามีไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ทำมาหากินธรรมดา ขายน้ำดื่มในตลาดช่องจอม ทำห้องน้ำให้บริการในตลาดช่องจอม และเป็นผู้จัดการดูแลให้กับเจ้านายในตลาดช่องจอม ไม่ได้มีธุรกิจใหญ่โต ที่สำคัญสามีเป็นคนที่รักของทุกคน ส่วนรถตู้ของประเทศกัมพูดชาที่สามีขับมา มีเพื่อนเอามาจำนำไว้

 


ด้าน พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบคืนเกิดเหตุผู้ตายเอามวยเล็ก (ก่อนเวลา) มาชก 2 คู่ แต่ไม่ได้ทะเลาะกับใคร แต่จะไม่ทิ้งประเด็นทุกประเด็นรวมถึงวงการมวยด้วย ตอนนี้ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน มีตำรวจชุดสืบสวนภาค3 ,ชุดสืบสวนภูธรบุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สภ.กระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ลงพื้นที่หาข้อมูลในเชิงลึกร่วมกับตำรวจฝั่งจังหวัดสุรินทร์แล้ว คาดว่าจะคลี่คลายในไม่ช้า

 

 

หน้าแรก » อาชญากรรม