เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ รองผบช.ภ.6 สั่งการให้ พล.ต.ต.เดชพล เปรมศิริ ผบก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ พ.ต.อ.สุทธิเวท บุญยรัตนกลิน รอง ผบก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.ศุภณัฐ ศตะกูรมะ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.6 พ.ต.ท.จิรภัทร เพชรรัตน์ พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ สุดหอม รอง ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน1 บก.สส.ภ.6 จับกุมผู้ต้องหาชาย-หญิง 4 ราย ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , โดยทุจริต , หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ แหวนทองคำและรถยนต์ 1 คัน เงินสดกว่า 3 หมื่นบาท หลังก่อเหตุออกอุบายหลอกประชาชนผ่านเฟซบุ๊กให้ร่วมลงทุนสูญหายกว่า 3.6 ล้านบาท

ทั้งนี้  สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กับสภ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ว่าถูกคนร้ายออกอุบายหลอกให้ผู้เสียหายซื้อสินค้าแล้วเป็นตัวแทนจำหน่ายขายทางออนไลน์ อ้างได้ผลตอบแทนสูง โดยให้เข้าร่วมแพลตฟอร์มจนสูญเงิน 3,638,116 บาท ต่อมาตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาได้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง จ.เชียงราย และที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดัง จ.เชียงราย ขณะเตรียมไปกดเงินที่ได้จากการหลอกผู้เสียหายอีกคนหนึ่ง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยนำเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายไปใช้จ่ายและใช้หนี้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.