สถานการณ์การท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ได้รับการคลี่คลาย แต่กลับถูกซ้ำเติมโดยกลุ่มมาเฟียนกพิราบที่หวังผลประโยชน์แต่ไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

โดยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง  รอง ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้มีนโยบายปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย การกระทำความผิดในคดี 10 กลุ่มต้องห้าม, Overstay และความผิดอื่น ๆ ที่มีผลการกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ

งานสืบสวน กก.2 บก.ทท.2 โดย พ.ต.ท.อวิรุทธ์ สุขแย้ม สารวัตรสืบสวน ได้เห็นถึงปัญหามาเฟียนกพิราบ ที่กลับมาอาละวาดสร้างความเดือดร้อนอีกครั้ง จึงได้บูรณาการกำลังร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก. สภ.เมืองเชียงใหม่ ,พ.ต.ท.สถิตย์ชัย นิตยวัน รอง ผกก.สส. สภ.เมืองเชียงใหม่ และ สถานีตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ , และ เทศกิจเชียงใหม่ วางแผนปิดล้อมลานข่วงประตูท่าแพ และสามารถจับกุมกลุ่มคนที่ขายอาหารนก และเรียกเงินนักท่องเที่ยว ได้ทั้งสิ้น 8 ราย โดยแจ้งข้อหา “กระทำการเดืออดร้อนรำคาญผู้อื่นในที่สาธารณะ” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการขยายผลกลุ่มผู้ก่อเหตุ เป็นกลุ่มคนไร้บ้านและคนจรจัด จะรู้วงรอบช่วงเวลาในการออกตรวจของเจ้าหน้าที่ และพยายามหลีกเลี่ยง ทำให้ยากต่อการจับกุมและบังคับใช้กฎหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ดำเนินคดีทางกฎหมาย ทั้งการปรับ ตักเตือน การทำประวัติ ผู้ก่อเหตุไว้แล้วทั้งหมด.