วันที่ 3 กรกฎาคม 2567 กลายเป็นกระแสข่าวดังไม่หยุด สำหรับแก๊งเสี่ยหุ้นส่วนร้านเหล้ากึ่งผับชื่อดัง ตั้งอยู่ถนนเลียบโขง ใกล้หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ร่วมก่อเหตุรุมทำร้ายนายชิโนรส ย่อยดวงชัย หรือดีเจกาฟิวส์ อายุ 27 ปี พร้อมแฟนสาว น.ส.ชัญญานุช แก้ววิลัย หรือป๊อบ  อายุ 27 ปี โดยทั้งคู่เป็นชาว จ.สกลนคร เนื่องจากไม่พอใจดีเจไม่เปิดเพลงตามสั่ง จึงโทรเรียกเพื่อนที่เป็นก๊วนรถฮาร์เล่ย์ ยืนซุ่มในที่มืดฝั่งตรงข้าม ทำทีเป็นผู้หวังดีเดินมาช่วยเปิดประตูรถเก๋ง ขณะนำอุปกรณ์มาเก็บที่เบาะหลังด้านขวา ก่อนจะอาศัยทีเผลอรุมทำร้ายจนดั้งจมูกหักเลือดอาบเต็มใบหน้า หลังจากดีเจหนุ่มเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทางตำรวจมีคลิปหลักฐาน การก่อเหตุรุมทำร้ายผู้เสียหายแบบหมาหมู่ โดยไม่มีทางสู้ ส่วนแฟนสาวถูกหญิงที่อ้างเป็นภรรยาเสี่ยหุ้นส่วนร้าน ร่วมกับพนักงานบางคนล็อกตัวฟัดเหวี่ยงไม่ให้เข้าไปช่วยดีเจกาฟิวส์ 

ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดี พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ได้มอบหมายให้ทีมสืบสวนสอบสวน เร่งสอบพยานในที่เกิดเหตุจำนวนหลายปาก และเตรียมออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา จำนวน 2 คน คือนายโน้ตหุ้นส่วนร้าน อายุ 45 ปี และนายพงศ์อายุ 35 ปี คนที่ทำทีไปเปิดประตูรถเก๋งและชกเข้าที่ใบหน้าดีเจหนุ่ม ในฐานความผิดร่วมกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้ยังตรวจสอบหาหลักฐานอาวุธปืน ตามที่ผู้เสียหายยืนยัน ว่า ใช้อาวุธปืนพหสั้นตบใบหน้า

ล่าสุดงานเข้าแก๊งหมาหมู่เสี่ยร้านเหล้า เนื่องจากดีเจกาฟิวส์พร้อมแฟนสาว ออกมาแฉพฤติกรรมเถื่อนกลุ่มคนก่อเหตุในรายการดังโหนกระแส เปิดเผยว่าตนตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2 เดือน วันเกิดเหตุไม่เพียงดีเจกาฟิวส์สามี ที่ถูกทำร้ายในรถยนต์แบบไม่มีทางสู้ ยังมีผู้หญิงเชื่อว่าเป็นแฟนแก๊งหุ้นส่วนเจ้าของร้าน กอดฟัดเหวี่ยง ทำให้ศอกชนท้องจนร่างกายบอบช้ำ และมีอาการผิดปกติหน่วงที่ท้อง พอไปตรวจครรภ์ แพทย์ระบุแท้งลูก ยิ่งทำให้รู้สึกแย่หนัก เตรียมนำหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีเพิ่ม นอกจากข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังแฉอีกว่าก่อนมาออกรายการ มีชายอ้างเป็นตำรวจยศผู้กอง อ้างเป็นพนักงานสอบสวน ห้ามให้ข่าวกับสื่อ และไม่ให้ไปออกรายการโหนกระแส พร้อมพูดจาเชิงข่มขู่ว่าหากไม่เชื่อฟัง จะไม่ทำคดีให้ คดีจะไม่คืบหน้า แต่ทั้งสองสามีภรรยาไม่สนใจ เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม มีข้อมูลว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีอิทธิพลในพื้นที่ สามารถเปิดร้านเกินเวลาตามกฎหมายกำหนด จากปกติต้องปิดในเวลาเที่ยงคืน แต่สามารถเปิดได้ถึงเวลาตีสอง แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดำเนินการ โดยเสี่ยหุ้นส่วนร้านผู้ก่อเหตุ พยายามติดต่อข้าราชการบางคน ให้เข้ามาช่วยเหลือด้านคดี แต่ไม่มีใครยื่นมือมารับเผือกร้อน