จากกรณีแม่บ้านซึ่งเป็นอดีตบุคลากรด้านการศึกษา ได้ออกมาร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าว ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวหมดทรัพย์สินไปกว่า 40 ล้านบาท หลังโดนหลอกจากเพื่อนบ้านและผู้แอบอ้างเป็น ผอ.อบต. ให้ร่วมลงทุนธุรกิจแล้วเงียบหายไปแบบไม่ใยดีจนเกือบตัดสินใจฆ่าตัวตายตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุด น.ส.ณัฏฐ์นลิน เชี่ยวชาญธนกิจ แม่บ้านและอดีตครูคนดังกล่าว ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนธุรกิจจนได้รับความเสียหายแล้ว ตนเองก็หมดที่พึ่งพา หวังพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเหลือตามกระบวนการยุติธรรมก็ไม่เป็นผล โดยได้เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สน.ลาดพร้าว เพื่อหวังจะดำเนินคดี เนื่องด้วยบ้านอยู่ในเขตความรับผิดชอบของ สน.นี้

แต่เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ตำรวยรับเพียงลงบันทึกประจำวันเท่านั้น ไม่ได้ลงบันทึกแจ้งความดำเนินคดีททั้งที่ได้ร้องขอไปแล้วเพราะตนเองและครอบครัวเดือดร้อนอย่างหนัก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับมองและอ้างว่าเป็นเรื่องผิดสัญญาในธุรกิจไม่ได้เป็นการหลอกลวง เมื่อจะขอเข้าพบหัวหน้าสถานีก็ไม่มีใครอยู่อำนวยความสะดวก จึงอยากให้มีผู้ใหญ่มาช่วยเหลือในเรื่องนี้

ตอนนี้ถือได้ว่าหมดที่พึ่ง ไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว แต่จะเดินหน้าต่อสู้เพื่อขอความเป็นธรรมและคืนความถูกต้อง โดยจะรวบรวมกลุ่มผู้เสียหายที่โดนหลอกให้ลงทุนทำนองเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมากนับสิบคน มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาท และจะรวมตัวกันขอความเป็นธรรมต่อสังคมต่อไปด้วย