วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 15:51 น.

อาชญากรรม

ยายแทบขาดใจ!หลานถูกยิงตาย ก่อนจะกลับมาเคาท์ดาวน์ที่บ้าน

วันพุธ ที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2568, 13.13 น.

อำเภอคูเมือง / ยายวัย ปี ร้องไห้แทบขาดใจ หลังทราบข่าวหลานชายวัย 17 ปีถูกยิงเสี่ยชีวิตกลางดึก เพื่อนคนตายเผยกลุ่มคนร้ายดักยิงดื้อๆ ไม่เคยรู้จักกับมือปืนมาก่อน ตำรวจรวบมือปืน 15 ปีมาสอบสารภาพซื้อปืนมา2พัน สาเหตุเพราะป้องกันตัว พบปืนมี 2 ลำหล้องทำให้ผู้ตายเข้าใจผิดคิดว่ามีลูกเดียว

วันที่ 1 ม.ค.68 หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ นำร่างที่ไร้วิญญาณของนายธนทัต หรือนัท แสนกล้า อายุ 22 ปี มาส่งที่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 3 ต.ประเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของนางนางหนู อุทัยวี อายุ 84 ปี ยายของผู้เสียชีวิต หลังถูกวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งยิงขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

 

 

เมื่อนางหนู อุทัยวี เห็นศพหลานตัวเองถึงกับร่ำไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด เนื่องจากนางอุทียวี มีหลานเพียงคนเดียวและเลี้ยงมาด้วยตนเอง นายอุทัยวี เล่าว่าตอนหัวค่ำหลานบอกว่าจะไปเคาท์ดาวน์กับเพื่อนในหมู่บ้าน ตนไม่ว่าอะไรเพราะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ตอนดึกมามีคนมาแจ้งว่า หลานถูกยิงเสียชีวิต

 

 

ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก จึงให้เพื่อนบ้านพาไปดูที่โรงพยาบาล พบว่าหลานเสียชีวิตจริงๆ ยอมรับว่าเสียใจมากเพราะตนมีหลานเพียงคนเดียว ตอนนี้ไม่อยากได้อะไรแล้ว อยากให้คนก่อเหตุตายตามไปด้วยกับหลานชาย ชีวิตไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

 

นายนพวัฒน์ ติตารัมย์ อายุ22 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตเล่าว่าพวกตน 6 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวดูรถแห่ที่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เวลาประมาณ 23.30 น.เพื่อนบอกว่าจะรีบกลับไปเคาท์ดาวน์ที่บ้านที่นัดกันไว้ เมื่อขับรถมาตามทางถนนสาธารณะระหว่างบ้าน ดงย่อ-หนองขุนพรม ต.ปะเคียบ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์สวนมาด้วยกัน 5 คัน ยิงใส่ตนซึ่งขับนำหน้ารถเพื่อนที่ตาย แต่กระสุนไม่โดน

 

 

จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังอีก 2 นัด เพื่อนที่เสียชีวิตคิดว่ากระสุนของกลุ่มคนร้ายน่าจะหมด จึงจอดรถแล้วพยายามเข้าไปต่อสู้แต่โดนยิงสวนถูกกลางอกเสียชีวิตในที่เกิดเหตุดังกล่าว

 

ต่อมาชุดสืบสวน สภ.คูเมือง อ.คูเมือง ได้ตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาได้ 8 คน หนึ่งในนั้นคือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ซึ่งเป็นคนสารภาพว่าเป็นคนยิง

 

เบื้องต้นนายเอให้การรับสารภาพว่าเป็นคนยิงจริง สาเหตุเพราะเห็นผู้ตายวิ่งเขามาหมายจะทำร้าย จึงใช้ปืนที่พกมายิงไปนัดเดียว แต่ไม่รู้ว่าโดนตรงไหน ส่วนปืนตนซื้อมาในราคา 2,000 บาทตอนที่ไปกรุงเทพฯ

 

 

ตำรวจตรวจสอบอาวุธปืน พบว่าเป็นปืนไทยประดิษฐ์ แต่มี 2 ลำกล้อง คือปืนใส่กระสุนปืนลูกซองได้ และอีกลำกล้องหนึ่งใช้กระสุนขนาด.38 ได้ โดยผู้ตายน่าจะพอเข้าใจเรื่องปืนว่าเสียงที่ดังขึ้นเป็นปืนลูกซอง ซึ่งส่วนใหญ่จะยิงได้นัดเดียว เมื่อเสียงปืนสงบลง ผู้ตายจึงวิ่งเข้าไปหามือปืนหวังต่อสู้ จึงโดนยิงสวนด้วยลำกล้องขนาด .38 กระสุนตัวขั้วหัวใจเสียชีวิตดังกล่าว

 

หลังสอบสวนนำตัวส่ง พ.ต.ท.ชนะมาร เต็นปักษี สารวัตร (สอบสวน) สภ.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพรบ.อาวุธปืน

หน้าแรก » อาชญากรรม