ที่จังหวัดสุพรรณบุรี  ด.ต.อาทิตย์ พูลโพธิ์ทอง หัวหน้าหน่วยบริการฯ ตำรวจทางหลวงอู่ทอง ด.ต.โสภณ ตะพัง  จ.ส.ต.รชานนท์ คล้ายทอง ส.ต.อ.ปฏิพล ประสพกาญจน์ ผบ.หมู่ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายดุจศิลา อายุ 43 ปี ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม โดยแจ้งข้อกล่าวหา 1. ปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม 2. ใช้รถโดยไม่ชำระภาษีประจำปี  3. นำรถที่ไม่ได้จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยมาใช้ในทาง พร้อมของกลาง 4 รายการ  ประกอบด้วย 1 รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ นิสสัน สีน้ำเงิน เลขตัวถัง  MNTBAAN17Z0017722 หมายเลขเครื่อง HR12 455604A จำนวน 1 คัน 2. แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข  ศก 667 กรุงเทพหมานคร จำนวน 2 แผ่น 3. กุญแจรถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน จำนวน 1 ดอก 4. แผ่นป้ายเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี (ปลอม) จำนวน 1 แผ่น

พฤติการณ์ในการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ ออกตรวจในพื้นที่เขตรับผิดชอบ ถึงบริเวณทางหลวงหมายเลข 321 กม.88+500 (ขาเข้า อำเภออู่ทอง) ตำบลสวนแตง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี พบกษณะต้องสงสัยจึงได้ให้สัญญาณรถคันดังกล่าวให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ พบนายดุจศิลา เป็นคนขับ จากการตรวจสอบ หมายเลขทะเบียนรถผ่านระบบ CRIMES ONLINE ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรากฏว่า ไม่พบข้อมูลรถยนต์คันดังกล่าว และตรวจสอบแผ่นป้ายภาษีประจำปีของรถยนต์คันดังกล่าว โดยให้นายดุจศิลาฯ เป็นผู้ถอดแผ่นป้ายภาษีออกมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบด้วยตนเอง ซึ่งแผ่นป้ายภาษีมีลักษณะลบเลือน จืดจาง ไม่มีสติ๊กเกอร์ลายน้ำ มีร่องรอยการแก้ไข และร่องรอยการหลุดลอกของแถบสะท้อนแสง (แถบสะท้อนแสงวงกลม “ขบ” บนแผ่นป้ายภาษี) ซึ่งไม่ได้มาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจสอบ หมายเลขตัวถัง หมายเลขเครื่อง ผ่านระบบ CRIMES ONLINE ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรากฎว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีการจดทะเบียนโดยหมายเลขทะเบียน กล 1646 ราชบุรี ซึ่งไม่ตรงกับแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลข ศก 667 กรุงเทพมหานคร ซึ่งติดอยู่กับรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้สอบถามนายดุจศิลาฯ  ถึงที่มาของรถยนต์และแผ่นป้ายทะเบียน แผ่นป้ายภาษี ที่ติดมากับรถยนต์คันดังกล่าว นายดุจศิลาฯ ให้การว่า รถคันดังกล่าวไม่ใช่รถของตน ซึ่งตนได้ยืมรถยนต์คันกล่าวมาจากนายเอก (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ซึ่งเป็นญาติของตน มาจากจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อมาทำธุระส่วนตัวที่จังหวัดสุพรรณบุรี และให้การอีกว่า นายเอกฯ ได้ใช้รถยนต์คันดังกล่าวพร้อมด้วยแผ่นป้ายทะเบียน ศก 667 กรุงเทพมหานคร และแผ่นป้ายภาษี มาประมาณ 3 เดือน ซึ่งเมื่อตนได้แจ้งให้นายเอกฯ ทราบว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบ หลังจากนั้นตนก็ไม่สามารถติดต่อนายเอกฯ ได้อีก และนายดุจศิลาฯ รับอีกว่า ตนไม่ทราบว่า นายเอกฯ ได้รถยนต์คันดังกล่าวมาอย่างไร และไม่ทราบว่านายเอกฯ ได้รถคันดังกล่าวมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าการกระทำความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดฐาน “ปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม,ใช้รถโดยไม่ชำระภาษีประจำปี,นำรถที่ไม่ได้จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยมาใช้ในทาง” จึงควบคุมตัวนายดุจศิลาฯ พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป