วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ตชด.237) ต.ไชยบุรี  อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน พ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าอุเทน, พ.ต.ท.ธนพล   ท้าวหนู รอง ผกก.ตชด.23  พร้อมด้วย พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ผบ.ร้อย ตชด.237) และชุดปราบปรามยาเสพติด แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 60 มัด ประมาณ 120,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน กต 9046 นครพนม 1 คัน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 0.30 น.ของวันเดียวกัน บริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านข่า  (รพ.สต.บ้านข่า) อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

ผลการจับกุมตรวจยึด ตามนโยบายการป้องกันสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน Seal Stop Safe ของรัฐบาลและตามแผนยุทธการพิทักษ์ริมแม่น้ำโขง โดย ร.ต.อ.จรณ์ แก้วคำแสน หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว (หน.ชปข.ร้อย ตชด.237) พร้อมเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง สืบทราบว่าจะมีการลำเลียงยาบ้าจากริมแม่น้ำโขงเข้าไปยังพื้นที่ตอนใน จึงวางกำลังเฝ้าระวังตามถนนสายรอง ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง เนื่องจากพื้นที่ อ.ศรีสงคราม ถูกให้เป็นพื้นที่ไข่แดงของแผนนครพนมโมเดล เพราะมีเส้นทางลัด รวมถึงเส้นทางสายรอง สามารถไปยังอำเภอ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น บึงกาฬ สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร เป็นต้น

กระทั่งช่วงเวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน พบรถยนต์กระบะต้องสงสัย แล่นมาจากบ้านนาพระชัย ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เลี้ยวเลาะเข้าถนนสายบ้านหาดแพง-บ้านข่า โดยปกติเส้นทางดังกล่าว จะไม่มีรถยนต์วิ่งในยามวิกาล ตรวจสอบแล้วไม่ใช่รถยนต์ของคนในพื้นที่ จึงส่งสัญญาณให้ชุดปฏิบัติการติดตาม ปรากฏว่ารถกระบะต้องสงสัยไหวตัว พยายามจะเร่งเครื่องหลบหนี จึงเกิดการไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด ซึ่งเจ้าหน้าที่อีกชุดจอดรถขวางถนนไว้รอ ทำให้รถกระบะหาทางหนีไม่ได้ จึงจอดรถอยู่หน้า รพ.สต.บ้านข่า และเปิดประตูวิ่งหลบหนีไป 2 คน ทิ้งเพื่อนเป็นคนขับอยู่ภายในรถ 1 คน กว่าจะสยบได้ต้องไล่ล่าข้าม 3 อำเภอ คือ 1.ท่าอุเทน 2.บ้านแพง และ 3 ศรีสงคราม

ผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งวิ่งเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในสวนยางพารา ส่วนอีกคนโดดข้ามกำแพงรั้วเหล็กหมอบอยู่กับพื้นสนามหน้าบ้านของชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้ครบทั้งหมด ทราบต่อมาว่าชื่อ นายอภิวุฒิ อายุ 20 ปี นายฐาปกรณ์ อายุ 20 ปี และนายวุฒิ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ทั้งสามคนเป็นชาวบ้าน ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง ส่วนของกลางเป็นยาบ้า) จำนวน 60 มัด ประมาณ 120,000 เม็ด สารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวลาวคนละ 10,000 บาท เพื่อขนยาบ้าไปส่งยังพื้นที่ จ.สกลนคร โดยจะมีรถยนต์อีกคันมารอรับตรงจุดนัดพบ รอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่มาหลายครั้ง จึงเกิดความย่ามใจจึงถูกจับกุมดังกล่าว

ทางด้าน พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู  กล่าวว่าตามที่รัฐบาล กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มีนโยบายเร่งด่วนในการป้องกันปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศตามแนวชายแดนทั่วประเทศ โดยสืบสวนหาข่าว ลาดตระเวนช่องทางต่างๆ และตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามจุดเสี่ยง

ซึ่งผลการปฏิบัติในครั้งนี้ ก็เป็นการทำงานร่วมกับภาคประชาชนในพื้นที่ และหน่วยความมั่นคงต่างๆ ทำให้สามารถจับกุมตรวจยึดยาเสพติดปริมาณมาก ซึ่งทางตำรวจตระเวนชายแดนก็จะได้เพิ่มการเฝ้าระวังบริเวณแนวชายแดน และพื้นที่เสี่ยง อย่างเข้มแข็งต่อไปเพื่อป้องกันปราบปรามยาเสพติดให้สิ้นซากอย่างเด็ดขาด โดยจะขยายผลสาวถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการต่อไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม ในข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ