วันจันทร์ ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:51 น.

อาชญากรรม

ตำรวจทางหลวง-ตม.อยุธยา สกัดจับกระบะ 2 คันลักลอบขนชาวจีนหลบหนีเข้าเมือง

วันพุธ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2568, 13.16 น.

ภายใต้อำนวยการนำโดย พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ สวญ.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.,ว่าที่ พ.ต.ท.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ สว.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป)ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ด.ต.วิชัย ตามสมัย ,ด.ต.ยศภัทร อินต๊ะ,จ.ส.ต.ธนกฤต สาระสหะตันติ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา นำโดย พ.ต.ต.ชานนท์ คำบุรี สว.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลัง กวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา), บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ

จนกระทั่ง เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 11 มีนาคม 2568 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา สนธิกำลังออกสำรวจตรวจสอบเส้นทาง พบรถยนต์กระบะแคป ต้องสงสัย 2 คัน คันที่ 1 รถยนต์ กระบะแคป ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทเบียน ผข 2101 เพชรบูรณ์ คันที่ 2 รถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา หมายเลข บษ 346 พระนครศรีอยุธยา ขับขี่มาด้วยความเร็ว ลักษณะติดฟิล์มมืดทึบ ขับขี่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ทำให้ต้องสงสัย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์กระบะทั้ง 2 คัน จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม. 3 – 4 ถนนสายเอเซีย(ขาเข้า) ในพื้นที่ ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ

พบว่าคันที่ 1 รถยนต์ กระบะแคป ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน ผข 2101 เพชรบูรณ์ มี นายจิตษานนท์ อายุ 29 ปี ชาวหมู่ 8 ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เป็นคนขับ ภายในรถมีบุคคลที่นั่งโดยสารคล้ายชาวต่างชาติ จำนวน 3 คน จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง เบื้องต้นตรวจสอบพบ รายที่ 1 ชื่อ เหมิง จี ยู อายุ 24 ปี มีหนังสือเดินทาง สัญชาติ จีน พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาตเป็นเวลา 117 วัน และ ราย ที่ 2 ชื่อ หวง เลอ จาง อายุ 32 ปี มีหนังสือเดินทาง สัญชาติ จีน พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาตเป็นเวลา 123 วัน และรายที่ 3 ชื่อ หลิว เลอ ชิง อายุ 44 ปี มีหนังสือเดินทาง สัญชาติ จีน พบว่าเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 และอนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนดอนุญาตเป็นเวลา 117 วัน

คันที่ 2 รถยนต์กระบะแคป ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา หมายเลข บษ 346 พระนครศรีอยุธยา ,มี นายจิตติกร อายุ 31 ปี สัญชาติไทย ชาวหมู่ที่ 6 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก เป็นคนขับ จากนั้นตรวจสอบภายในรถยนต์พบว่ามีบุคคลที่นั่งโดยสารคล้ายชาวต่างชาติจำนวน 4 คน จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีเอกสารถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 2 คนและตรวจสอบพบว่า อีก 2 คน มี นาย ลี เจียง พิง อายุ 29 ปี สัญชาติ จีน และ นายเพิง โย เคียว อายุ 28 ปี สัญชาติ จีน เป็นคนต่างด้าวสัญชาติจีน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง

จากการสอบถาม นายจิตติกร คนขับ ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 21.30 น. ได้รับการติดต่อจากเพื่อน(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง)ให้ไปรับคนจีนมาจาก จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางกรุงเทพมหานคร ได้ค่าจ้างจำนวน 6,500 บาท จึงมาด้วยกันพร้อมกัน 2 คัน โดยรับว่าได้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวพร้อมอีกคัน บรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ

คันที่ 1 สอบถาม ชาวจีน ผ่านล่ามแปลภาษาจีนให้การยอมรับว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาทั้ง 3 คน “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” คันที่ 2 สอบถาม ชาวจีน ให้การยอมรับว่าผ่านล่ามแปลภาษาจีน ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำงานในประเทศไทย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งข้อกล่าวหา คนขับรถทั้ง 2 คัน ข้อหา “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ” ส่วน ชาวจีนที่มาในรถคันที่ 1 “ เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ” ชาวจีนที่ในรถคันที่ 2 ข้อหา “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” และควบคุมตัวพร้อมของกลาง รถทั้ง 2 คัน นำส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.ตม.3 ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

หน้าแรก » อาชญากรรม