เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 21 มี.ค.68 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผกก.ตม.หนองคาย, พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ บุญเสริม ผกก.กก.สส.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม พ.ต.ท.ธียาฌพัตท์ รังสิพราหมณกุล รอง ผกก.ตม.หนองคาย, พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย ร.ต.อ.อนุชา กาญจนสกุล ร้อยเวรตรวจบุคคลและพาหนะสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ชุดสืบสวนกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.ณัฐริกา อายุ 21 ปี ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับ สน.พญาไท เมื่อเดือน ก.พ.2568 ที่ผ่านมา และนายเอกพล อายุ 31 ปี ต.บ้านตูม อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สภ.เมืองพิจิตร ตั้งแต่เดือน ก.ย.2567 ทั้งสองมีฐานความผิด ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน หรือ เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน โดยเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด เจ้าหน้าที่จับกุมทั้งสองคนขณะเข้ายื่นหนังสือเดินทางกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านพรมแดน เจ้าหน้าที่พบว่าทั้งสองคนมีหมายจับติดตัวจึงควบคุมตัวไว้มาสอบสวนที่ห้องสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย

จากการสอบสวน ทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่า เป็นแฟนกันและได้รับการติดต่อจากชาวต่างชาติให้เปิดบัญชีม้า ทำมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว มาช่วงนี้เงินขาดมือ จึงติดต่อขายบัญชีม้าให้กับคนต่างชาติ บัญชีธนาคาร 5 เล่ม ๆ ละ 9,000 บาท เป็นเงิน 45,000 บาท  โดยกลุ่มคนต่างชาติได้บอกให้ทั้งสองคนเดินทางจาก จ.ขอนแก่น มายังด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย แล้วจะพาเดินทางออกนอกประเทศไปแสกนใบหน้าที่ประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นจึงจะจ่ายเงินค่าบัญชีม้าให้ พวกตนจึงจ้างรถมาส่ง แต่พอมายื่นหนังสือเดินทางก็ถูกจับกุมเสียก่อน เงินก็ยังไม่ได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาให้ทราบและส่งตัวให้กับ สน.พญาไท และ สภ.เมืองพิจิตร เจ้าของคดี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.