ผู้สื่อข่าวรายเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568  ภายใต้การอำนวยการของ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัดพังงา และนายศุภฤกษ์ เกตุสุรินทร์ ป้องกันจังหวัดพังงา ได้มอบหมายให้นายอัจฉริยะ เพียรทอง หน.ชป.พิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา นำสมาชิก อส. สังกัด ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา บูรณาการร่วมกับ จนท.สรรพสามิตพื้นที่พังงา ฝ่ายปกครองอำเภอท้ายเมือง และฝ่ายปกครองตำบลลำแก่น เข้าดำเนินการตามที่มีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือแจ้งว่าจะมีพัสดุ ซึ่งส่งผ่านบริษัทไปรษณีย์ไทยจาก อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งภายในเป็นบุหรี่ต่างประเทศที่ยังมิได้มีการเสียภาษี ตาม พรบ.ภาษีสรรพสามิต จนท.ชุดตรวจจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า มีพัสดุตามที่แหล่งข่าวแจ้งมาจริง จึงทำการขออายัดพัสดุกล่องดังกล่าวไว้ และเมื่อทำการเปิดกล่องพัสดุเพื่อพิสูจน์พบว่า ภายในเป็น บุหรี่ต่างประเทศยี่ห้อ VESS จำนวน 25 กล่อง โดยบรรจุกล่องละ 10 ซอง รวม 250 ซอง คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐประมาณ 235,000 บาท
  
โดยพัสดุดังกล่าวจ่าหน้าพัสดุถึงบุคคลที่ชื่อรุจิรา พร้อมเบอร์โทรติดต่อ ชป.พิเศษฝ่ายปกครอง จ.พังงา จึงได้ใช้ขั้นตอนทางเทคนิคในการตรวจเช็คเบอร์โทรศัพท์ของผู้รับที่เขียนไว้บนพัสดุ พบว่า เจ้าของเบอร์ดังกล่าวชื่อว่า น.ส. ธนาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาว ม.5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา 
      
ซึ่งชื่อของบุคคลดังกล่าวตรงกับสลิปการชำระเงินค่าพัสดุกับทางบริษัทไปรษณีย์ไทย ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงมีหลักฐานเพียงพอที่น่าเชื่อได้ ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าของพัสดุผิดกฎหมายดังกล่าวจริง จึงได้เดินทางไปยังบ้านพักของ น.ส.ธนาภรณ์ ปรากฏว่า น.ส.ธนาภรณ์ ไม่อยู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้นำของกลาง เอกสาร และพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนง.สอบสวน สภ.ท้ายเหมือง เพื่อให้ดำเนินการคดีกับ น.ส.ธนาภรณ์ ในข้อหาขายหรือมีไว้เพื่อขาย ซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน ตาม ม.204 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560