กาฬสินธุ์-ตำรวจยกเลิกทำแผนประกอบคำรับสารภาพ “ไอ้เต้” เขยโหด พร้อมพวก หลังไม่ยอมลงจากรถ หวั่นถูกรุมประชาทัณฑ์ ขณะ ตร.แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ด้านญาติผู้เสียชีวิตเรียกร้องให้ลงโทษสูงสุด

ความคืบหน้าเหตุยิงสองศพกลางบ้านพัก พื้นที่ ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ หลังจาก นายวรเชษฐ หรือเต้ อายุ 34 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายสมเด็จ อายุ 50 ปี พ่อตา และ น.ส.มณีรัตน์ อายุ 25 ปี แฟนสาว เสียชีวิต หลังง้อขอคืนดีไม่สำเร็จ เนื่องจากพ่อตาไม่ยินยอมและห้ามไว้ ก่อนหลบหนีและเข้ามอบตัวภายหลัง

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.ต.อ.นพดล ศรีชะตา รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ สภ.หนองกุงศรี ติดตามความคืบหน้าคดี โดยมี พ.ต.อ.นพวิทย์ ดิษฐาธนาธรสิริ ผกก.สืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ พ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หนองกุงศรี รายงานสถานการณ์

ขณะนี้ ตำรวจควบคุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 ราย คือ นายจักรกฤษณ์ อายุ 28 ปี และ นายดนัย อายุ 36 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ ไว้พร้อมกัน

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าโมโหที่พ่อตาไม่ยอมให้พาภรรยากลับมาอยู่ด้วย และมีการท้าทายให้ยิง จึงบันดาลโทสะชักปืนยิงทันที ก่อนหลบหนีไปตั้งหลัก และยอมเข้ามอบตัวในที่สุด

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านจุดเกิดเหตุ แต่เมื่อมาถึง กลับไม่ยอมลงจากรถ เนื่องจากเกรงจะถูกรุมประชาทัณฑ์ ท่ามกลางประชาชนและญาติผู้เสียชีวิตที่รวมตัวกันจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวกลับ สภ.หนองกุงศรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" กับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ นายวรเชษฐ อีก 3 ข้อหา ได้แก่

    1    มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
    2    ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควรในหมู่บ้าน
    3    พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต

พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าโมโหที่พ่อตาไม่ยอมให้พาภรรยากลับมาอยู่ด้วย และเคยมีประวัติอาชญากรรม โดยปี 2564 เคยถูกดำเนินคดีข้อหาอาวุธปืน ถูกจำคุก 4 เดือน และปี 2566 เคยถูกฟ้องในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น แต่ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง

ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ยังได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมกำชับให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ด้าน นายสำลี อายุ 59 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ พี่ชายนายสมเด็จ กล่าวว่า วันเกิดเหตุได้ยินเสียงทะเลาะกัน จึงเดินไปดูก็พบผู้ต้องหาทะเลาะกับผู้เสียชีวิตทั้งสอง ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงแล้วหลบหนี พร้อมเรียกร้องให้ลงโทษผู้ก่อเหตุสูงสุด

ขณะที่ นางเสาร์ อายุ 57 ปี ญาติผู้เสียชีวิต เผยว่า การกระทำของผู้ต้องหาโหดเหี้ยมเกินมนุษย์ อยากให้รับโทษประหารชีวิตเพื่อชดใช้กรรมที่ก่อไว้