วันที่ 11 มิถุนายน 2568 ภายใต้การอำนวยการของ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัดพังงา นายศุภสิทธิ์ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอท้ายเหมือง และนายศุภฤกษ์ เกตุสุรินทร์ ป้องกันจังหวัดพังงา ได้มอบหมายให้นายอัจฉริยะ เพียรทอง หน.ชป.พิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา นำสมาชิก อส. สังกัด ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอท้ายเหมือง ผู้ใหญ่บ้าน ม. 1 ต.ลำแก่น ออกดำเนินการปราบปรามและแก้ปัญหายาเสพติดตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และ ผวจ.พังงา 
  
สืบเนื่องจาก ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง จ.พังงา ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.ท้ายเหมือง จับกุมนายฐิติทัต(หมาน) และนายคมสัน (สัน) พร้อมของกลางยาบ้ารวม 250 เม็ด เข้าทำการสุ่มตรวจปัสสาวะกลุ่มวัยรุ่นจำนวน 14 ราย ที่ม.1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยผลการตรวจคือ บุคคลทั้ง 14 ราย มีสารเสพติดในร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงทำการขยายผลจากการจับกุมทั้ง 2กรณีจนพบว่า ในพื้นที่ ม.1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นายดุ่ย ชาว จ.ชุมพร มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน ในพื้นที่ลำแก่นหรือพื้นที่ข้างเคียง ทั้งยังเป็นเครือข่ายยาเสพติดของนายคมสัน (สัน) ที่ถูกจับตัวมาแล้ว
    
ต่อมาในวันที่ 11 มิ.ย.2568 เวลาประมาณ 01.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ทำการวางกำลังโดยรอบบ้านเช่าเลขที่ ในพื้นที่ ม.1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบแล้วว่าเป็นบ้านเช่าที่นายดุ่ยใช้พักอาศัยอยู่กับแฟนสาว จากนั้นประมาณ 15 นาที พบเห็นนายดุ่ยขับขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ เข้ามาจอดหน้าบ้านเช่าที่เกิดเหตุพร้อมกับแฟนสาว เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มดูอยู่จึงได้แสดงตังและขอเข้าทำตรวจค้นตัวและบ้านเช่าที่เกิดเหตุ จนสามารถจับกุมตัว นายธนพล หรือนายดุ่ย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ ชาว ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร  พร้อมของกลาง  ยาบ้าจำนวน203 เม็ด อุปกรณ์เสพยาเสพติดจำนวน 1 ชุดถุงพลาสติกใสสำหรับใส่ยาบ้า จำนวน 32 ถุง เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา จำหน่าย และมีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ แอมเฟตามีน (ยาบ้า)  โดยไม่ได้รับอนุญาต ขับขี่ยานพาหนะขณะมีสารเสพติดในร่างกาย (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่  แอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป