กรณี นายนัยหรือกะตู่ อายุ 45 ปี ลูกชายคนโตของนางกิ่งแก้ว อายุ 65 ปี บ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ติดยาบ้ามานานหลายปี และเกิดอาการหลอน เอะอะโวยวาย เป็นที่เอือมระอาในชุมชน แม้จะนำตัวไปบำบัดจนนับครั้งไม่ถ้วน อาการก็ไม่ดีขึ้น ล่าสุดหลังจากที่หายออกจากบ้านไป 3 วัน 3 คืน กลับเข้าบ้านก็คลุ้มคลั่ง อาละวาดทำลายข้าวของ และพยายามจะทำร้ายพ่อแม่ จนต้องหนีออกมาแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ประสานฝ่ายปกครอง รวมทั้งตำรวจ สภ.เมืองนครพนม แม้แต่ลุงเพื่อนบ้านที่มีบ้านอยู่ติดกัน เป็นผู้ป่วยพิการแขนขา พลอยเดือดร้อนไปด้วย ฝ่ายปกครองต้องจับขี่หลัง อุ้มหนีมาอยู่ในที่ปลอดภัย เหตุเกิดวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

โดยเหตุการณ์ยืดเยื้อจนพลบค่ำ นายกะตู่ก็ไม่มีท่าทางจะสงบลง กลับคลุ้มคลั่งหนักยิงหน้าไม้ใส่เจ้าหน้าที่ และถึงขั้นจุดไฟเผาบ้าน โชคดีชุดปฏิบัติการเตรียมรถดับเพลิงไว้ก่อนแล้ว จึงสามารถฉีดดับไฟได้ทัน รวมทั้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตัดกระแสไฟ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ทำให้โกลาหลกันเกือบทุกหน่วยงาน เพราะคนคลั่งยาบ้าเพียงคนเดียว โดยนายกะตู่จุดไฟเผาบ้าน ในเวลาประมาณเกือบสองทุ่ม และอาศัยช่วงชุลมุนประกอบกับเป็นเวลากลางคืน ใช้ความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้

หลังเจ้าหน้าที่ถอนกำลังไปแล้ว เวลาประมาณห้าทุ่ม นางนิตยา ศรีชื่น ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งญาติพี่น้องของนายกะตู่ผู้ก่อเหตุ ได้เข้าไปตรวจภายในบ้าน โดยเฉพาะชั้นสอง พบสิ่งของกระจัดกระจาย มีกลิ่นน้ำมันคลุ้ง แต่หาหน้าไม้ที่ใช้เป็นอาวุธไม่เจอ คาดผู้ก่อเหตุนำติดตัวไปด้วย จึงบันทึกส่งรายงานให้นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอเมืองนครพนม ทราบในเบื้องต้น

ทั้งนี้ นายกะตู่ผู้ก่อเหตุ ทาสยาเสพติดรายนี้ ถือเป็นบุคคลอันตราย เพราะมีอาวุธที่สามารถทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงแจ้งให้ผู้พบเห็น ว่า  ถ้าเจอตัวอย่าเข้าใกล้แม้จะรู้จักกัน ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบโดยด่วน