วันจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568 10:27 น.

อาชญากรรม

ปลิดชีพตัวเองหนีผิด "กะตู่" ทาสยาเผาบ้าน หลบเจ้าหน้าที่อยู่ 4 วัน ญาติไม่ติดใจสาเหตุ

วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 10.43 น.

สืบเนื่อง นายนัย หรือกะตู่ อายุ 45 ปี บ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งลูกของนางกิ่งแก้ว อายุ 65 ปี ที่ติดยาบ้านานหลายปี เวลาเกิดอาการหลอน จะเอะอะโวยวาย ตะโกนด่าทอเพื่อนบ้าน กลายเป็นที่เอือมระอาในชุมชน ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. นายกะตู่ได้คลุ้มคลั่ง อาละวาดทำลายข้าวของ และพยายามจะทำร้ายบุพการี จนพ่อแม่ต้องหนีไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน เพื่อประสานฝ่ายปกครอง รวมทั้งตำรวจ สภ.เมืองนครพนม เข้าระงับเหตุ  กลับทำให้นายกะตู่คลั่งหนัก พยายามจุดไฟเผาบ้าน โชคดีที่มีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า มีรถดับเพลิงจอดรับเหตุการณ์อยู่ก่อนแล้ว จึงสามารถสกัดเพลิงไว้ได้ ในขณะที่นายกะตู่ผู้ก่อเหตุ อาศัยความมืดและชำนาญพื้นที่ หลบหนีไปขณะเกิดเหตุการณ์ชุลมุน และเจ้าหน้าที่ได้ออกตามล่าตัว ถือว่าเป็นบุคคลอันตราย เพราะมีหน้าไม้พร้อมลูกดอกเหล็กเป็นอาวุธ ซึ่งชาวบ้านต่างหวาดผวา เนื่องจากไม่ทราบว่านายกะตู่จะโผล่มาเวลาไหนอีก ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 06.00 น. ได้รับแจ้งจากนางนิตยา ศรีชื่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม ว่า มีชาวบ้านได้ขับรถเพื่อไปขนต้นกล้าเตรียมดำนา โดยอยู่ทางด้านทิศใต้ของหมู่บ้าน ขณะขับรถบนถนนลูกรัง ฝั่งคลองระบายน้ำชลประทาน ต้องได้ผ่านเถียงนาของนางกิ่งแก้ว สังเกตเห็นเหมือนมีร่างคนยืนอยู่ในนั้น โดยไม่ไหวติงร่างกาย ด้วยความสงสัยจึงหยุดรถลงไปดู พบคือนายนัย เสนสอน หรือกะตู่ อายุ 45 ปี ชายที่คลุ้มคลั่งที่ก่อเหตุ และกำลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัว สวมเสื้อยืดลายทาง คุมด้วยเสื้อยืดแขนยาวสีแดง กางเกงวอร์มสีดำ สวมรองเท้าบูท ใช้เชือกไนล่อนสีเขียวแขวนคอตัวเองกับขื่อเถียงนา ลักษณะลิ้นจุกปาก มือทั้งสองข้างหงิกเกร็ง จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบ และรายงานเหตุเบื้องต้นให้ทางฝ่ายปกครอง พร้อมแจ้ง ร.ต.อ.หญิง มนัสนันท์ บุรีภักดี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม  ประสานแพทย์เวร รพ.นครพนม ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนาวาจุดเมือง กู้ชีพ อบต.บ้านผึ้ง มาคอยอำนวยความสะดวกแก่ญาติของผู้เสียชีวิต

ไม่นานก็มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่รู้ข่าวเดินทางมาดูศพ หนึ่งในนั้นมีนายผงอายุ 66 ปีซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของนายกะตู่  มายืนร่างไร้วิญญาณของลูกเลี้ยง ที่ตนเองรักเสมือนลูกแท้ๆ เพราะเลี้ยงดูมาตั้งแต่ตัวยังเล็ก ส่วนการที่ลูกเลี้ยงเข้าไปอยู่วังวนยาเสพติดเมื่อไหร่ ไม่ทราบจริงๆและไม่คดคิดว่าคนดีๆคนหนึ่ง ต้องเสียสติเพราะยาเสพติดตัวเดียว โดยนายกะตู่เสียชีวิตประมาณ 6-8 ชั่วโมง ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

จากการสอบถามนายพิน อายุ 70 ปีผู้เป็นลุงของนายกะตู่ เปิดเผยว่าเมื่อก่อนหลานชายเป็นคนนิสัยดีคนหนึ่ง มาเสียคนเพราะยาเสพติด และไม่น่าคิดสั้นแบบนี้ เมื่อรู้ตัวเองว่าผิดไปแล้วควรไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ส่วนนางนิตยา ศรีชื่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 เล่าว่าหลังเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย พยายามติดตามตัวนายกะตู่ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัด เมื่อวันสองวันก็มาวัดที่นาอยู่บริเวณนี้ แต่ไม่เห็นตัวนายกะตู่  เชื่อว่าเขากลัวเจ้าหน้าที่จึงหลบหนีการจับกุม กระทั่งมีคนมาพบศพปลิดชีพตัวเองแล้ว

หน้าแรก » อาชญากรรม