วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 12:52 น.

อาชญากรรม

บุกยิงโหด 5 นัดพ่อค้าดับคาแผงกล้วย พบพึ่งพ้นโทษคดียาเสพติด

วันพุธ ที่ 09 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 10.18 น.

วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ร.ต.อ.ณรงค์ชัย คงช่วย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบริเวณบ้าน ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา ซึ่งเปิดเป็นแผงขายกล้วยและสับปะรดริมถนนสายอู่ตะเภา-ท่าศาลา จึงรายงานผู้บังคับบัญชา พร้อมนำกำลังชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลท่าศาลา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยประชาร่วมใจ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูน บริเวณหน้าบ้านพบศพ นายอิทธิภัทร หรือ “ปอนด์ โมคลาน” อายุ 29 ปี เจ้าของบ้าน ถูกยิงเข้าศีรษะ 3 นัด และลำตัว 1 นัด นอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสีดำ มือซ้ายกำสร้อยคอทองคำหนักประมาณ 1 บาทแน่น ตรวจสอบในบ้านพบร่องรอยกระสุนทะลุกระจก และกล้วยน้ำหว้าวางอยู่บนลังน้ำแข็ง ข้างราวเหล็กมีการแขวนกล้วยไข่จำนวนมาก

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเคยมีประวัติเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ และเพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 4-5 เดือน โดยประกาศตัวว่าเลิกวงการ หันมายึดอาชีพสุจริตรับซื้อกล้วยและสับปะรดมาขายหน้าบ้าน อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านยังคงเคลือบแคลง และเชื่อว่าอาจยังมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่

พยานที่เป็นบิดาผู้ตาย นายอมรศักดิ์ ซึ่งเป็นประธานกองทุนหมู่บ้านและเป็นบุคคลที่ได้รับความเคารพในพื้นที่ เล่าว่าขณะเกิดเหตุ ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกไปทำธุระ เห็นคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์สีแดงมาจอดหน้าบ้าน หนึ่งคนสวมเสื้อแจ็คเก็ตและหมวกกันน็อกสีดำ อีกคนสวมเสื้อฮู้ดดำคลุมศีรษะ ทำทีเข้ามาซื้อกล้วย เมื่อผู้ตายหยิบกล้วย 3 หวีจากราวมาวางบนลังน้ำแข็งและกำลังจะใส่ถุง คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ทันที 5 นัดซ้อนจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป

พ่อนายปอนด์เผยว่า สร้อยทองคำที่อยู่ในมือผู้ตายเป็นของน้องสาวที่ยืมมาสวมใส่ และคนร้ายได้พยายามดึงสร้อยออกไปแต่ไม่สำเร็จ เชื่อว่าคนร้ายมีเจตนาเอาชีวิตมากกว่าชิงทรัพย์ เพียงแค่พยายามกระชากทองเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นการสังหารเท่านั้น

“ลูกชายผมอาจมีอดีตที่เลวร้าย แต่เขาบอกว่าจะกลับตัว คนร้ายไม่ได้ตั้งใจชิงทรัพย์แน่นอน แต่ต้องการสังหาร ด้วยปัญหาความขัดแย้งในวงการยาเสพติด” พ่อนายปอนด์กล่าวอย่างมั่นใจ

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามกล้องวงจรปิดในพื้นที่ พบว่าหลังเกิดเหตุ คนร้ายหลบหนีไปทาง อ.ท่าศาลา และมีกล้องวงจรปิดห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300-400 เมตร สามารถจับภาพขณะคนซ้อนท้ายพยายามถอดเสื้อฮู้ดดำออกเผยให้เห็นเสื้อยืดสีขาวที่ใส่อยู่ด้านใน คาดว่าต้องการอำพรางการติดตามของเจ้าหน้าที่

ทาง พ.ต.อ.ธวัชชัย สังฆมิตกล ผกก.สภ.ท่าศาลา ระบุว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน สอบสวนพยานแวดล้อม และเร่งแกะรอยติดตามจับกุมคนร้ายทั้ง 2 รายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด คดีนี้ถือว่าอุกฉกรรจ์กลางวันแสก ๆ ประชาชนให้ความสนใจ และกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่โดยตรง

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องขัดแย้งยาเสพติด หรือความพยายามชิงทรัพย์เพื่ออำพราง แต่ให้น้ำหนักไปที่ประเด็นการสั่งตายจากขัดแย้งในขบวนการค้ายาเสพติดเก่า.

หน้าแรก » อาชญากรรม