เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าว ได้พบน.ส.ศรีสุดา  บรรจุสุวรรณ์ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านเตี๋ยวเรือรถไฟ ผู้เสียหาย  เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ได้ลงประกาศรับสมัครพนักงานทำงานในร้านทางเฟสบุ๊ก ต่อมามีหญิงสาวคนหนึ่งติดต่อเข้ามา บอกว่าชื่อเนม อายุ 26 ปี เป็นคนต่างจังหวัดติดต่อมาขอทำงาน อ้างว่าย้ายมาอยู่ชุมพรเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอยากมีงานทำหาเงินเลี้ยงลูก และบอกว่าเคยทำงานร้านอาหารมาก่อน เสิร์ฟ รับออเดอร์ ลวกเส้น หรือล้างเช็ดถู ได้หมด แต่หน้าตาไม่สวย และอ้วน  
      
ตนเห็นว่าน่าจะเป็นคนขยันและก็ไม่สนใจว่าอ้วนหรือไม่ ขอให้เป็นคนขยันทำงานอยู่กันด้วยความจริงใจตนจึงตอบตกลงรับไว้ทำงานโดยจะทดลองงานก่อน 2-3 วัน  ต่อมาเมื่อช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ผ่านมา น.ส.เนมฯได้เดินทางเข้ามาที่ร้าน ขณะนั้นตนและลูกน้องอีก 3 คนรวมทั้งน.ส.เนมฯ จึงบอกน.ส.เนมฯ ที่เพิ่งเข้าทำงานเป็นวันแรกให้แบ่งหน้าที่กันทำ 
      
เจ้าของร้านเตี๋ยวเรือรถไฟ เล่าอีกว่า ในระยะเวลาผ่านไปแค่ 10 นาที ตนมาทราบจากการดูกล้องวงจรปิดภายหลัง เห็นว่า น.ส.เนมฯมักจะคอยสอดส่องสายตามองไปทั่วร้านเหมือนจะหาอะไรสักอย่างไม่ตั้งใจทำงานเลย และพูดออกอุบายให้พนักงานในร้านให้ไปถามเจ๊เจ้าของร้านว่า จะขอเบิกเงินสัก 200 บาทก่อนได้ไหม อ้างว่าจะเอาไปจ่ายค่าชุดไทยลูกที่โรงเรียน พนักงานคนที่โดนถามจึงเดินหายไปในครัวหลังร้านเพื่อถามเจ้าของร้านให้
       
ขณะนั้นน.ส.เนมฯก็ออกลายกลายเป็นโจรในทันที เดินไปหยิบสายชาร์ตแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือของเจ้าของร้านซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง  และทุเรียนห่อผ้าเช็ดโต๊ะเอาไปใส่กระเป๋าถุงผ้าของน.ส.เนมฯเอง แค่นั้นยังไม่พอไปเปิดกระเป๋าของพนักงานในร้านที่วางอยู่แต่โชคดีในกระเป๋าไม่มีเงิน 
        
หลังจากนั้นน.ส.เนมฯโจรขโมยรายนี้ไปเห็นเงินที่ตนเองเก็บสะสมไว้ในถุงพลาสติกแขวนไว้ใต้หิ้งไอ้ไข่  มีทั้งธนบัตรใบละ 20 และ 100 บาทเป็นเงินสะสมที่ทางร้านเก็บไว้เพื่อถวายบูชาไอ้ไข่ที่ตนเองนับถือและจะเอาเงินดังกล่าวไปทำบุญ ทำทานตามวัดต่างๆ ทำการกุศลทั้งในจังหวัดชุมพรและวัดไอ้ไข่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จังหวะนั้นพนักงานคนอื่นเดินมาออกมาจากในครัวเสียก่อน ทำให้มีเงินที่หายไปประมาณกว่า 10,000 บาท  น.ส.เนมฯจึงบอกพนักงานในร้านว่าเดี๋ยวมานะเอาของไปให้พี่ก่อน จากนั้นก็หายไปเลย
        
ซึ่งตนเชื่อว่าน.ส.เนมฯเข้ามาสมัครงานมีเจตนาเพื่อลักทรัพย์ ไม่ได้ตั้งใจทำงานอย่างที่กล่าวอ้าง และหลังจากที่ตนเองเอาข้อมูลไปโพสทางกลุ่มร้านค้าในจังหวัดชุมพร ก็มีร้านค้าหลายร้านบอกว่า เคยโดนหญิงคนเดียวกันนี้หลอกมาแล้วโดยวิธีซื้ออาหารแล้วโอนเงินทิพย์ บอกว่าโอนแล้วแต่เงินไม่เข้าบ้าง ผู้เสียหายบางรายร้องว่าเคยถูกหญิงคนดังกล่าวขโมยเงินด้วย ตนเองขอเตือนภัยว่าให้ระมัดระวังบุคคลดังกล่าวด้วย หลังเกิดเหตุได้เดินทางแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองชุมพรไว้แล้ว เพื่อให้ติดตามหญิงที่ก่อเหตุมารับโทษทางกฎหมายต่อไป