วันที่ 7 สิงหาคม 2568  พ.ต.ท.อุทิศ เหล่าหา สารวัตรเวรสอบสวน สภ.โพธาราม ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายขโมยวัวของนางอนุตา พูหล่ำ อายุ 66 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลสร้อยฟ้า อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมสายตรวจตำบลสร้อยฟ้าและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
    
ที่เกิดเหตุ นางอนุตาได้นำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่วัวถูกผูกไว้ก่อนหาย ซึ่งเป็นวัวเพศเมีย อายุ 5 ปี พันธุ์เลมัน กำลังตั้งท้องได้ประมาณ 6-7 เดือน คาดว่าคนร้ายลงมือช่วงหลังเที่ยงคืน เจ้าของยังพาเจ้าหน้าที่ไปดูร่องรอยเท้าของวัว ซึ่งพบรองเท้าแตะหูหนีบขาดตกอยู่ใกล้ร่องรอยดังกล่าว คาดว่าเป็นของคนร้ายที่หลุดขณะพยายามควบคุมวัว
    
นางอนุตาเปิดเผยว่า วัวตัวดังกล่าวเป็นวัวพันธุ์ผสมเลมัน เลี้ยงไว้หลังบ้านใกล้คลองชลประทาน ผูกไว้เป็นปกติ บางครั้งก็ปล่อยบ้าง ไม่มีประวัติหายมาก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อ 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ มีสุนัขที่บ้านถูกวางยาเบื่อตายไป 3 ตัว และที่บริเวณคันคลองอีกกว่า 10 ตัว เหลือเพียงหมาเล็กเท่านั้นที่รอด
     
หลังพบเหตุการณ์ผิดปกติ เจ้าตัวได้แจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไว้แล้ว เพราะไม่เคยเกิดเหตุเบื่อหมาขนาดนี้มาก่อน โดยเชื่อว่าคนร้ายวางยาเพื่อป้องกันไม่ให้หมาเห่า จากนั้นจึงลงมือขโมยวัว คืนวันเกิดเหตุมีฝนตก ทำให้พื้นในคอกเปียก จึงต้องผูกวัวไว้นอกคอกริมคลอง พอตื่นเช้าก็พบว่าวัวหาย คิดว่าอาจหลุดไปเอง จึงออกตามหา แต่ไม่พบ ก่อนจะเจอร่องรอยเท้าและรองเท้าแตะของคนร้ายตกอยู่
    
เจ้าของวัวกล่าวว่า“วัวตัวนี้เราเลี้ยงมากับมือ รักมาก อยากให้คนร้ายเอามาคืน ไม่ควรมาขโมยกันแบบนี้” พร้อมวอนให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็ว โดยระบุว่าราคาวัวหากขายตามปกติอยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นบาท แต่หากนำไปขายแบบรีบด่วนอาจได้เพียง 10,000 - 12,000 บาทเท่านั้น
   
นางอนุตายังเผยว่า วัวในบ้านมีทั้งหมด 7-8 ตัว แต่ละตัวเลี้ยงดูโดยตนและลูกชายผู้ล่วงลับ ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกยิงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พอลูกเสียชีวิตก็ต้องรับภาระเลี้ยงต่อเอง จึงรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ให้ข้อมูลผู้ต้องสงสัยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว