วันที่ 18 สิงหาคม 2568 นายอิศรา โพธิ์เงิน นายอำเภอนาแก จ.นครพนม ได้รับการร้องเรียนจากกำนัน ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม ว่า นายนันทวัตร หรือแมน อายุ 30 ปี เป็นชาวบ้านต.บ้านแก้ง มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้ก่อเหตุบุกรุกเคหสถานในยามวิกาล และทำลายทรัพย์สินในพื้นที่หมู่ 2 และหมู่ 11 ต.บ้านแก้ง มีผู้เสียหาย 4 ราย กระจกบ้านแตก 3 หลัง และกระจกรถยนต์แตก 1 คัน โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาเที่ยงคืนเศษ ซึ่งผู้เสียหายทั้งหมดได้นำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.นาแก ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังทราบเหตุจึงมอบหมายให้นายคณินทร์ ผมงาม ปลัดอำเภอฝ่ายหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษ อส.อ.นาแกที่ 10 ร่วมกับตำรวจ สภ.นาแก เดินทางไปยังบ้านนาทุ่งมั่ง ต.บ้านแก้ง ซึ่งเป็นบ้านพ่อและแม่ของนายแมนผู้ก่อเหตุ พบนายแมน นั่งอยู่ในครัวเพื่อรอกินข้าว แต่พอเห็นเจ้าหน้าที่มาในชุดเต็มเครื่องแบบ ก็มีอาการตื่นตกใจ แต่ยังทำใจดีสู้เสือ ถามว่ามาหาใคร พอรู้ว่ามาจับตนก็เหงื่อแตก ถึงกระนั้นก็ยินยอมให้จับแต่โดยดี    

สอบถามเบื้องต้นนายแมนผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่าตนเองบุกรุกเคหสถานและเสพยาเสพติด ฝ่ายความมั่นคงอำเภอนาแก จึงนำปัสสาวะส่งตรวจโรงพยาบาลนาแก ผลตรวจปรากฏว่าเป็นบวก ฝ่ายความมั่นคงอำเภอนาแกจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายแมนซึ่งยังอยู่ในอาการหลอนยา ให้การว่าตนตามหาเมียที่หนีไปหลบอยู่ในบ้านคนพวกนั้น เมื่อเรียกให้ออกมาแล้วยังไม่ยอม ก็เลยใช้ท่อนไม้ที่เตรียมมาทุบกระจก อีกอย่างมีคนไปท้าทายตนที่หน้าสวนยาง ในช่วงเวลาตอนกลางคืนบ่อยๆ  ด้วยการยิงปืนแก๊ปใส่ต้นยาง จึงอดกลั้นไม่ไหว ออกตระเวนไล่ทุบทำลายสิ่งของในยามวิกาล เมื่อสาแก่ใจแล้วก็กลับมานอนบ้าน ราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น รุ่งเช้าก็มีเจ้าหน้าที่จับกุมตัวดังกล่าว

ทั้งนี้ กรณีที่นายแมนอ้างว่าออกตามหาเมียนั้น ความจริงได้เลิกรากันนานกว่า 7 ปีแล้ว เนื่องจากภรรยารับไม่ได้ที่สามีเสพยาบ้า และมีอาการหลอนยาบ่อย แม้จะรักแค่ไหนก็ต้องตัดใจ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนที่เสพยาแล้ว เกิดจำหน้าลูกเมียไม่ได้ อาจถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต

นอกจากนี้นายแมนเคยต้องโทษ ในคดีทำลายทรัพย์สิน เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน ก็หวนกลับมาเสพยาบ้าจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง วันเกิดเหตุนายแมนยอมรับว่า เพิ่งเสพยาบ้าไป 2 เม็ด เกิดอารมณ์คิดถึงเมียที่เลิกกันไปนานแล้ว จึงขับรถจักรยานยนต์ตะโกนตามหาเมีย ทั้งที่หย่าร้างไปนานเกือบ 10 ปี และทุบทำลายทรัพย์สินของคนอื่นจนเสียหาย เพราะคิดว่าเมียหลบอยู่ในบ้านหลังนั้น

ด้านผู้เสียหายรายแรกนางประเทียน อายุ 59 ปี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ เปิดเผยว่าเมื่อกลางดึกขณะนอนหลับอยู่ ต้องตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงคนทุบกระจกบ้าน ตนกับสามีรีบออกมาดูก็เห็นกระจกหน้าบ้านแตกเสียหาย โดยมีท่อนไม้ที่คนร้ายทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า และในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็ได้ยินเสียงคนส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายลั่นถนน ว่า “เมียกูอยู่ไหน”  พร้อมกับเสียงกระจกแตกดังมาจากทางบ้านลูกสาว ที่อยู่ห่างไปประมาณ 100 เมตร ปรากฏว่าคนร้ายหลังทุบกระจกบ้านตนแล้ว ก็ขับรถจักรยานยนต์ไปทุบกระจกบ้านของลูกสาวคือนางสาวประภัสสร เชื้อคำฮด อายุ 27 ปี จนแตกเป็นรูโหว่ ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพว่าคนร้ายรายนี้คือนายนันทวัตร วังทะพันธ์ หรือแมน จึงใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดี

ขณะนั้นนายแมนยังไม่หายคลุ้มคลั่ง ได้ไปที่บ้านของนางอุไรวรรณ อายุ 58 ปี ใช้เตาอั้งโล่ที่อยู่บริเวณนั้น ทุ่มใส่กระจกจนแตกละเอียด แล้วก็ขับรถจักรยานยนต์ออกไปก่อเหตุที่บ้านของนางประเถียนทอง อายุ 68 ปี คว้าเก้าอี้ไม้ทุบกระจกแครี่บอยรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน ที่จอดอยู่หน้าบ้านแตก จากนั้นคาดว่าหนำใจแล้วนายแมนจึงขับรถจักรยานยนต์กลับเข้าบ้าน

ทางด้านพ่อแม่ของผู้ก่อเหตุได้ไปขอโทษผู้เสียหายทั้ง 4 ราย พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้ ประเมินคร่าวๆว่าค่าเสียหายทั้งหมดประมาณ 5 หมื่นบาท ขณะที่นายแมนมือทุบยังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวอยู่