วันเสาร์ ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2568 03:39 น.

อาชญากรรม

ตำรวจไซเบอร์แถลงจับสามคดีใหญ่กลุ่มบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันศุกร์ ที่ 05 กันยายน พ.ศ. 2568, 19.19 น.

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 5 ก.ย.68 ที่กองบ้งคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญกรรมทางเทคโนโลยี 4 จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.กฤชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ โดยได้ จับกุม 6 บัญชีม้า กดเงินสดส่งนายทุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์

สืบเนื่องจากผู้เสียหายรายหนึ่งได้พบโฆษณาบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ ชื่อบัญชี "Matcha Chatramue"อ้างว่าจะมีการแจกผลิตภัณฑ์ชาพรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้เสียหายรู้สึกได้สนใจจึงได้ติดต่อผ่านกล่องข้อความไป จึงมีการพูดคุยผู้เสียหายโอนเงินลงทุนช่วงแรกได้เงินคืนจริง แต่เมื่อโอนเงินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กลับไม่สามารถอนเงินคืนได้เสียหายรวม 528,220 บาทต่อมาชุดตำรวจสืบทราบว่าเงินของผู้เสียหายได้ถูกโอนเช้าบัญชีม้าเพียงทอดเดียว จากนั้นได้ถูกถอนออกทันที ผ่านเคาท์เตอร์ของธนาคารหลายแห่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงสืบสวนจนกระทั่งทราบตัวผู้ถอนเงิน รวมถึงผู้ทำหน้าที่เฝ้าควบคุมคนถอนเงินต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับบุคคลทั้งสอง คือ นายคมปภพ อายุ 29 ปี และ น.ส.อัยช่า อายุ 21 ปี ผู้ทำหน้าเฝ้าควบคุมคนถอนเงิน และสามารถเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลางเป็นบัญชีธนาคาร, โทรศัพท์มือถือ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะพาผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้าตระเวนถอนเงินสดจากธนาคารต่างๆ

คดีที่สองสืบเนื่องจากผู้เสียหายรายหนึ่งได้รับสายโทรศัพท์อ้างว่ามาจากสำนักงานที่ดิน จ.แม่ฮ่องสองพูดคุยหลอกผู้เสียหายให้เข้าแอฟเพื่อทำธุรกรรมด้านที่ดิน ทำให้มีเงินถูกดูดออกจากบัญชีไปรวม 651,800.00 บาทต่อมาชุดสืบสวนทำการติดตามจับกุมคนร้ายได้สองคนคือ นายวิลลี่ อายุ 25 ปี และนายศทธวัต อายุ 29 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางหลายรายการ อาทิ บัญชีธนาคารของบุคคลอื่นโทรศัพท์มือถือ ผู้ต้องหารับสารภาพเป็นแค่คนกดเงินได้รับผลตอบแทนจำนวน 2 เปอร์เซ็นต์ 

คดีที่สามสืบเนื่องจากผู้เสียหายรายหนึ่งได้ถูกหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยพบโฆษณาชักชวนลงทุนเกี่ยวกับการเทรดหุ้น SAXOPLUS TH ผู้เสียหายสนใจจึงได้ติดต่อและแอดไลน์ และถูกส่งให้สนทนทนาต่อไปยังผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ชื่อ "ทัน lanpatamaอuก" จากนั้นได้แนะนำให้โอนเงินเพื่อลงทน สุดท้ายเสียหายรวม 1,923,366.22 บาทชุดสืบสวนก็ทำการสืบสวนจนพบ ผู้เสียหายมีการโอนเงินจำนวน 11 ครั้ง รวม 11 บัญชี ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นบัญชีธนาคารที่เปิดในนามของบริษัท เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีบัญชีของคนร้ายจำนวน 1 บัญชี มีการเบิกถอนที่หน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร จึงได้สืบสวนขยายผล กระทั่งรู้ตัวผู้ถอนเงินรวมถึงผู้ทำหน้าที่ควบคุม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับบุคคล 2 ราย คือ นายอับดุล สัญชาติ บังกลาเทศ (สามี) และ น.ส.ปัณณภัสร์ (ภรรยา) เจ้าของบริษัท และสามารถเข้าจับกุมได้ที่ บริษัท อ.บางแพ จ.ราชบุรี

เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่าได้ทำธุรกิจนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรโดยจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และยังเป็นกรรมการบริษัทอื่นอีกประมาณ 5 บริษัท ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรและร้านอาหารด้วย แต่ภายหลังเกิดการขาดสภาพคล่องทางธรกิจ และได้พบประกาศโฆษณาในกล่มเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการซื้อขายบัญชี จึงได้สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับประกาศดังกล่าว ซึ่งผู้รับซื้อบัญชีแจ้งว่าเป็นบัญชีปลายทางสำหรับถอนเงินสดเท่านั้น ไม่ใช่เงินผิดกฎหมาย และจะให้ได้ผลตอบแทนจำนวน 2 เปอร์เซ็นต์ ผู้ต้องหาจึงได้ยินยอมให้ไช้บัญชีธนาคารบริษัทดังกล่าวรับโอนเงิน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. กล่าวว่านอกจากการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ยังดำเนินการทวงเงินคืนอีก 3 รายอายัดเงินคืนให้ผู้เสียหายกว่า 4 แสนบาทซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนในเทรดหุ้น

หน้าแรก » อาชญากรรม