เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 เวลา 11.00 น. ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวผลการปฏิบัติการ "ไล่ล่าทรชนคนอันธพาล" ตามนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติด  โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย  รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ  ผบก.สส.ภ.5,    พล.ต.ต.ยุทธนา  แก่นจันทร์  ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พล.ต.ต.บุณยวัต  เกิดกล่ำ ผบก.ภ.จว.ลำพูน โดยมีการเปิดเผยรายละเอียดผลการจับกุมคดีสำคัญและคดีอาชญากรรมต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณี คนร้าย ไอ้หม่อง ,ไอ้ท๊อป พร้อมพวกอีก 20 กว่าคน  บุกเข้าทำร้ายฟันมือเด็ก 14 ขาดและยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ อีก 2 รายนิ้วขาดกับถูกฟันกลางหลัง ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวมาได้ทั้ง ไอ้หม่อง ไอ้ท๊อป และพวกที่ร่วมกันไปทำร้ายผู้อื่นทั้งหมด 18 คน ล้วนเป็นว้ยรุ่นไทใหญ่ ที่เข้ามาทำงานในเชียงใหม่ และทางตำรวจภาค 5 ยังได้ทำการขยายผลกวาดล้างอย่างต่อเนื่องกลุ่มวัยรุ่นไทยใหญ่ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ผลการปฏิบัติการไล่ล่าทรชนคนอันธพาลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน ระหว่างวันที่ 18 -23 ก.ย.68 ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และลำพูน จับกุมผู้ต้องหารวม 189 คนดำเนินคดีข้อหา ลักลอบเข้าเมือง 93 คน , ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 16 คน ,ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 16 คน, ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ 2 คน , ความผิดเกี่ยวกับร่างกาย  2 คน , OVER STAY 3 คน, บุคคลตามหมายจับไทย 2 คน และอื่นๆ 55 คน และส่วยของตำรวจ สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหา 7 คน พร้อมของกลางน้ำกระท่อม ผสมยาแก้ไอประมาณ 150 ขวด

ดำเนินคดีข้อหาขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยผิดกฎหมาย ตามมาตรา 12 พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 , ผลิต หรือขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต โดย ผิดกฎหมาย ตาม มาตรา 17 พระราชบัญญัติยาสมุนไพร พ.ศ.2562, ผลิต หรือขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรทีไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำหรับที่ไม่ได้แจ้งรายละเอียด หรือไม่ได้จดแจ้ง และแต่ กรณี ตาม มาตรา 58 (4) พระราชบัญญัติสมุนไพร พ.ศ.2562 นอกจากนั้นแลวตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 จับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้งจำนวน 31 ชิ้น ดำเนินคดีความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ, พ.ร.บ.ศุลกากร ฯ

ขณะเดียวกัน ทาง พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช ภาค 5  ได้เข้าสอบปากคำ ไอ้ท๊อป ผู้ต้องหารายล่าสุดด้วยตนเอง โดย ไอ้ท๊อป ได้สารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับว่าได้ร่วมไปกับไอ้หม่อง ในวันก่อเหตุโดยยอมรับว่าเป็นผู้รวบรวมสมาชิกไทใหญ่และเมียนม่าร์ ที่อยู่ในเชียงใหม่  ทั้งแก็ง 979 ,แก็ง “ดูไบ” โดยไอ้ท๊อป นั้นเป็นหัวหน้าแก็ง 999 อยู่ก่อนแล้ว รวมตัวกันได้ 30 คน และออกก่อเหตุแก้แค้น เพราะสมาชิกของพวกตนถูกวัยรุ่นคนไทย ขู่จะทำร้ายก่อน จึงได้รวบรวมกลุ่มแก็งดังกล่าวออกทำร้ายก่อน แต่ผิดกลุ่ม เมื่อก่อนอยู่ที่กรุงเทพ ได้รวมแก็ง 999 กันและกออกก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายวัยรุ่นพวกกะเหรี่ยง,และคนไทย โดยล่าสุดไปทำร้ายวัยรุ่นกะเหรี่ยงอาการปางตาย และได้หลบหนีมาอยู่เชียงใหม่ และมารวบรววมสมาชิกใหม่และไปร่วมกับกลุ่มแก็งวัยรุ่นเดิม 979,และแก็ง ดูไบ ออกก่อเหตุดังกล่าว

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช ภ 5 ได้เปิดเผยว่าคดีทำร้ายร่างกายเด็กในพื้นที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหารวม 18 คน ดำเนินคดีความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันเป็นซ่องโจร และร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายจนก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธติดตัว และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุ อันสมควร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 210, 215 และมาตรา 297 ” สำหรับ

นายหม่อง(คนลงมือ)และนายท็อป(หัวหน้าแก๊ง) ดำเนินคดีเพิ่มเติมข้อหา พยายามฆ่าฯ ตอนนี้ยังค้างผู้ต้องหาที่ร่วมไปก่อเหตุในวันดังกล่าวอีก 12 ราย รู้ตัวหรือหน้าหมดแล้วกำลังไล่กวาดล้างให้สิ้นซาก ยังมี “ไอ้เดือน” หัวโจกใหญ่ มีอาชีพเป็น รปภ ที่กลุ่มวัยรุ่นพวกนี้จะเกรงกลัว ทางตำรวจได้ขอหมายจับแล้วและศาลก็ได้อนุมัติมาแล้ว ทางตนได้สั่งไล่ล่า “ไอ้เดือน ”หัวโจกใหญ่ ที่กลุ่มกลุ่มแก็งวัยรุ่นไทใหญ่เกรงกลัว มาดำเนินคดีให้จงได้และต่อมาตนได้สั่งการให้ตำรวจในภาค 5 ได้ดำเนินการกับกลุ่มวัยรุ่นต่างด้าว ที่ก่อเหตุฯ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน โดยให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทันที ทั้งให้ตั้งข้อหาให้หนักที่สุด เพื่อให้พวกนี้กลัวและเข็ดหลาบ

ทางตำรวจภาค 5 ได้รับแจ้งจากแพทย์ รพ มหาราชนครเชียงใหม่ ว่า น้องเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่ถูกฟันมือขาดและแพทย์ได้ต่อมือให้นั้น วันนี้นิ้วมือน้อง สามารถกระดิ๊กได้แล้ว ถือเป็นข่าวดี อาการน้องดีขึ้นตามลำดับทั้งสภาพจิตใจด้วย.