วันอังคาร ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:52 น.

อาชญากรรม

รวบแล้ว! ไรเดอร์เลือดร้อนแทงหนุ่มใหญ่สาหัส อ้างโมโหเตือนขับรถสูบบุหรี่แถมโยนทิ้งกลับถูกด่ากลับ

วันจันทร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 10.45 น.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 เวลา 23.57 น.ศูนย์วิทยุนครพิงค์ได้แจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงได้รับบาดเจ็บบริเวณถนนทิพย์เนตรหน้ากาดมณี ชุดสืบสวน (เหยี่ยวดำ) นำโดย พ.ต.ท.ชุวาพล ชัยสาร รอง ผกก.สส.,พ.ต.ท.พูนศักดิ์ พักตร์ผ่องศรี สว.สส. พ.ต.ต.วุฒิไกร ทาหอม สว.สส. สภ.เมืองเชียงใหม่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหน้าบริเวณกาดมณี พบนายสุรศักดิ์ อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกแทงบริเวณใต้ราวนมข้างซ้าย จำนวน 1 แผล ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่  และมี น.ส.ศศิวิภา ภรรยานายสุรศักดิ์ฯ อยู่ในที่เกิดเหตุเช่นกัน

ให้การว่าขณะที่ตนขับขี่รถยนต์มาตามถนนทิพย์เนตรมาถึงสี่แยกหายยามุ่งหน้าสี่แยกแอร์พอร์ตได้มีไรเดอร์ขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า แอร็อก สีน้ำเงิน ขาว ทะเบียนเชียงใหม่ ตามหลังมาและเกิดมีปากเสียงกับนายสุรศักดิ์ฯ ขณะขับขี่รถไปถึงหน้ากาดธานีทั้งนายสุรศักดิ์ฯ และไรเดอร์คนดังกล่าวได้จอดรถแล้วทะเลาะวิวาทกัน จากนั้นไรเดอร์คนดังกล่าวได้ใช้อาวุธมีดแทงนายสุรศักดิ์ฯ บริเวณใต้ราวนมซ้าย จำนวน 1 แผล เป็นเหตุให้นายสุรศักดิ์ฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและขับขี่รถจักรยานยนต์ฯ หลบหนีไป

จากการตรวจสอบข้อมูลของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า แอร็อก สีน้ำเงิน ขาว ทะเบียนเชียงใหม่ มีนายพิพัฒ อายุ 36 ปี อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเมื่อได้ทำการตรวจสอบข้อมูลที่พักอาศัยของนายพิพัฒฯ อย่างละเอียดแล้วทราบว่ามีที่พักอยู่ที่หอพัก ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาเวลา 01.00 น.ของวันที่ 12 ตุลาคม 2568 ชุดสืบสวนได้นำกำลังเข้าตรวจสอบหอพักดังกล่าว เมื่อไปถึงหอพักพบนายพิพัฒฯ มีลักษณะรูปพรรณตรงกันกับไรเดอร์ที่ก่อเหตุ โดยเมื่อได้ทำการตรวจสอบภายในห้องพักของนายพิพัฒฯ พบเสื้อแกร็บสีเขียวแขนยาว, หมวกกันน็อกสีเทาและรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า แอร็อก สีน้ำเงิน ขาว ทะเบียนเชียงใหม่ จอดอยู่ใต้หอพัก 

ซึ่งนายพิพัฒฯ รับว่าเป็นคนก่อเหตุแทงนายสุรศักดิ์ฯ ที่หน้ากาดมณีจริง โดยมูลเหตุเกิดจากที่นายสุรศักดิ์ฯ สูบบุหรี่ขณะขับขี่รถยนต์แล้วมีการพ่นควันและเขี่ยบุหรี่ออกนอกรถทำให้ตนเองขับขี่รถตามหลังมาโดนขี้บุหรี่และควันบุหรี่ทำให้ตนเข้าไปตักเตือน แต่ฝ่ายนายสุรศักดิ์ฯ คู่กรณีกลับไม่พอใจ จนเกิดการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น ขณะที่ทั้งสองทะเลาะวิวาทกันอยู่นั้นตนเองได้ใช้อาวุธมีดอเนกประสงค์ที่พกพามาด้วยแทงนายสุรศักดิ์ฯ 

จากนั้นจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ฯ หลบหนีไป โดยที่อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุได้หล่นหายไประหว่างหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ควบคุมตัวนายพิพัฒฯ พร้อมด้วยของกลางมายัง สภ.เมืองเชียงใหม่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดย จนท.ตร. แจ้งข้อกล่าวหาว่า“ทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับอันตรายสาหัสและพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”

พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุนี้เกิดจากการใช้รถ ใช้ถนนร่วมกัน ซึ่งการขับขี่รถในทางสาธารณะ ต้องมีระเบียบวินัยยึดในเรื่องของกฏหมายจราจร และมีถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน สำหรับเคสนี้การขับขี่รถยนต์แล้วสูบบุหรี่ ทำให้รถตามหลังมาได้รับความเดือดร้อนก็ไม่ใช่เรื่องควรทำ  หากถูกตักเตือนแล้ว ขอโทษขอโพยกัน ก็ไม่น่าจะทำให้เกิดเหตุบานปลายแบบนี้ ในส่วนของการดำเนินการตามกฏหมาย ก็จะนำตัวนายพิพัฒน์ ฯ ผู้ก่อเหตุ ฝากขัง ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฏหมาย ต่อไป
 

หน้าแรก » อาชญากรรม