วันที่ 13 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านบ้านโคกผักหอม ต.อุบมุง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เดือดร้อนและทุกข์ใจจากหนุ่มหลอนยาทำร้ายชาวบ้านไปทั่ว หากเป็นแบบนี้คงถูกฆ่าตายไปทั้งหมู่บ้านแน่ เพราะผลจากคนเสพยาเสพติดเสพยาจนหลอนทำร้ายร่างกายชาวบ้าน ตอนนี้ชาวบ้านทุกข์ใจมาก ล่าสุดหนุ่มรายนี้ทำร้ายป้าตาบอดจนสลบคาถนน รอดตายมาได้จนถึงต้องเย็บ 7 เข็ม โดยมีคลิปเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.24 น. วันที่ 11 ต.ค.68 ที่ผ่านมา และถูกแชร์ว่อนโลกออนไลน์ก่อนชาวบ้านจะร้องเรียนกับกับนักข่าว ในคลิปจะเป็นนายเม้า หนุ่มหลอนยาถือไม้ไผ่ด้ามยาวทำร้ายนางสงกรานต์ อายุ 52 ปีที่ตาบอดจนสลบกลางถนน จากนั้นก็ได้ยินเสียงหวีดร้องของชาวบ้านและวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ บางคนอุ้มลูกเล็กเด็กแดงหนีตาย แต่ก็มีชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงบางคนฮึดสู้ถือไม้วิ่งเข้าไปสู้กับนายเม้าด้วย

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางลงไปยังบ้านโคกผักหอม อ.หนองวัวซอ พบว่าจุดที่เกิดเหตุยังพบรอยเลือดหลงเหลืออยู่ ผู้บาดเจ็บยังอยู่ในอาการผวา ส่วนชาวบ้านยังจับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับเหตุที่สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นและยังผวานายเม้าหลังจากถูกตร.สภ.หนองวัวซอจับกุมตัวไป หากออกมาวันใดแล้วจะมาก่อเหตุอีกแน่นอน

นางสงกรานต์ อายุ 52 ปี ผู้บาดเจ็บและตาบอดด้วย เล่าว่า วันเกิดเหตุออกจากบ้านไปตามหลานมากินข้าว กำลังจะข้ามถนนก็ได้ยินเสียงชายคนหนึ่งตะโกนว่า “มึงบ่!” ก่อนจะถูกไม้ตีเข้าที่ศีรษะอย่างแรงจนล้มลงคาถนนจากนั้นคนร้ายยังเดินเข้ามาฟาดซ้ำอีก 2 ครั้งตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนตายไปแล้ว จู่ๆ ก็ลุกขึ้นได้ วิ่งหนีตายเลยและพยายามตะโกนร้องให้ชาวบ้านช่วย ก่อนมีคนวิ่งเข้ามาช่วยกันจับตัวไว้ได้ และมีชาวบ้านพานำส่งรพ.หนองวัวซอ ผลตรวจแพทย์พบมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ ต้องเย็บถึง 7 เข็ม แขนขามีรอยฟกช้ำหลายแห่ง ส่วนคนผู้ก่อเหตุ คือ นายยังคงทน หรือเมาท์ อายุ 41 ปี ลูกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน

นางสงกรานต์ เล่าอีกว่า ตนรู้จักกับคนก่อเหตุดีถือว่าเป็นญาติกัน มักไปร่วมวงกินข้าวกับพ่อแม่ของผู้ก่อเหตุเป็นประจำ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน คาดว่าสาเหตุครั้งนี้เกิดจากอาการหลอนจากการเสพยาบ้า เพราะก่อนหน้านี้ นายเม้าท์ก็เคยตบมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่เอาเรื่อง “ตอนนี้ยังกลัวอยู่ กลัวเขาจะกลับมาทำอีก เพราะอยู่บ้านกับหลานแค่สองคน ตาบอดข้างหนึ่ง อีกข้างก็เห็นแค่ลาง ๆ” นางสงกรานต์กล่าวด้วยเสียงหวาดกลัว

ส่วนนางราณี อายุ 45 ปีชาวบ้านโคกผักหอม บอกว่า ตอนนี้ผวากันไปหมด กลัวนายเม้าที่มีอาการหลอนยาออกมาจะทำร้ายชาวบ้าน แบบนี้คงได้ตายทั้งหมู่บ้านแน่ วอนเจ้าหน้าที่ฯ จับไปขังไว้นานๆ ด้วยเถิด หรือหาวิธีช่วยคนหลอนยาอย่ามาก่อเหตุแบบนี้อีก ตอนนี้ชาวบ้านโคกผักหอมกลัวมาก ซึ่งหากย้อนไปเมื่อเดือนมิ.ย.68 ที่ผ่านมา ตนเองเคยถูกนายเม้าท์ไล่ตีเช่นกัน ตอนนั้นพาหลานปั่นจักรยานเล่นหน้าบ้าน เห็นผู้ก่อเหตุถือท่อนเหล็กวิ่งตรงเข้ามาฟาดหลายครั้ง โชคดีที่อุ้มหลานหนีทัน แต่ตนก็ถูกตีเข้าที่ลำตัวและแขน อยากจะวิงวอนให้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่อยากให้ปล่อยตัวผู้ก่อเหตุออกมาโดยง่าย เพราะบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เกรงว่าจะเกิดเหตุรุนแรงซ้ำ “พวกเรากลัวกันหมดแล้ว คนดีอยู่ลำบาก ส่วนคนหลอนกลับได้สิทธิคุ้มครอง  คนสติดีจะกลายเป็นคนบ้าแทนแล้ว!” ชาวบ้ากล่าวด้วยความท้อใจและมีความหวัง

ทางด้านแม่ของผู้ก่อเหตุ อายุ 68 ปี เล่าว่า แต่ก่อนลูกชายเป็นคนดีมากทำงานเป็นกุ๊กร้านอาหารในตัวเมืองจ.อุดรธานี จากนั้นเกิดไปติดยา ก็เสพยามานานประมณ 5-6 ปีแล้ว  เคยส่งไปรับการบำบัดอยู่กว่า 3 ปี อาการดีขึ้นช่วงหนึ่ง แต่พอกลับบ้านได้ไม่นานก็กลับมาเสพอีก ทุกครั้งที่เสพยามักคลุ้มคลั่ง ชอบออกจากบ้านตอนกลางคืน บางครั้งมีเพื่อนมารับไปเสพด้วยกัน “หลังเกิดเหตุก็ได้ไปขอโทษยายสงกรานต์ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เราก็จน จะทำได้ก็แค่ปล่อยให้กฎหมายจัดการ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลูกได้กลับไปบำบัดอีกครั้ง” แม่ของผู้ก่อเหตุเผยเสียงสั่นและมีความหวัง สักวันอยากให้ลูกชายเลิกติดยา

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองวัวซอ บอกว่า ตอนนี้ตำรวจ ได้ควบคุมตัวนายเมาท์ ผู้ก่อเหตุไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว พร้อมรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์เพื่อประกอบสำนวน และจากการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นพบว่ามีสารเสพติด ทั้งนี้จากการสอบปากคำเบื้องต้นนายเมาท์ฯ บอกว่าถูกนางสงกรานต์ด่าเลยโมโหถือไม้ไผ่ด้ามใหญ่ฟาดทำร้ายร่างกายแค่นั้น