วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568 07:44 น.

อาชญากรรม

สธ.บุกทลายแหล่งเก็บคอนแทคเลนส์เถื่อนกว่า 3 แสนชิ้น มูลค่ารวมกว่า 17 ล้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 17.55 น.

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 ตุลาคม 2568 นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสาวจิตศ์ตราฏ์ หมีทองธนกรณ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา,นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ,นายวิน ธนพชรโภคิน ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.ต คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาตำรวจ ปคบ.ร่วมกันแถลงผลการทำลายแหล่งจัดเก็บและกระจายเครื่องมือแพทย์(คอนแทคเลนส์) เถื่อนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการตรวจยึดของกลางจำนวน 385,070 ชิ้นมูลค่ามากกว่า 17,873,500 บาท โดยมี เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึดนำโดย พ.ต.ท.หญิง อนุสรา บัวแดง สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การเข้าจับกุมและยึดของกลางจำนวนมากในครั้งนี้ สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้ตรวจสอบเครื่องมือแพทย์ (คอนแทคเลนส์)ยี่ห้อ “Kilala” เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจนทราบสถานที่จัดเก็บและกระจายสินค้าซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวหากผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานการผลิตและไม่ทราบถึงแหล่งที่มาแล้วมีการนำไปใช้กับดวงตาอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการใช้งานและเกิดความเสี่ยงติดเชื้อจากการใช้งานได้ต่อมาวันที่ 16 ตุลาคมพ.ศ. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยานำหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการเข้าตรวจค้นสถานที่จัดเก็บและกระจายสินค้าภายในโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการตรวจยึดและอายัดของกลางจำนวน 385,070 ชิ้นส่ง พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดีรายละเอียดดังนี้

1. ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ที่ได้รับอนุญาตประเภทคอนแทคเลนส์จำนวน 322,500 ชิ้นมูลค่า 16,825,000 ล้านบาท 2. ผลิตภัณฑ์ยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาได้แก่ยาประเภทเจลทาลดไข้ยาฆ่าเชื้อสำหรับทาบริเวณผิวหนังจำนวน 1500 ชิ้นมูลค่าประมาณ 120,000 บาท 3. ผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่มี อย. และไม่มีแสดงฉลากภาษาไทยได้แก่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไบโอตินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแมกนีเซียมอาหารในภาชนะบรรจุปิดสนิทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจำนวน 10,000 ชิ้นมูลค่า 800,000 บาท 4. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่มีเลขจดแจ้งและไม่แสดงฉลากภาษาไทยได้แก่ยาย้อมผมครีมทาหน้า สบู่ จำนวน 500 ชิ้นราคาประมาณ 50,000 บาท 5. ผลิตภัณฑ์วัตถุอันตรายที่ไม่ได้รับอนุญาตได้แก่ ผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำ จำนวน 1000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 50,000 บาท 6. ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่ไม่มีเลขทะเบียนตำรับ ได้แก่ ยาทารักษาโรคสะเก็ดเงิน และยาพ่นสำหรับรักษาอาการคัดจมูก จำนวน 570 ชิ้น มูลค่าประมาณ 28,500 บาท

จากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้รับแจ้งรายละเอียดนำเข้าเครื่องมือแพทย์จากสำนักคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด ส่วนการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่าโกดังเก็บสินค้าดังกล่าวมีการบริหารจัด การในลักษณะเก็บแพ็คส่งหรือ fulfillment โดยสินค้าจะมี Ms.MENG(สงวนนามสกุล) นายทุนชาวจีนเป็นผู้สั่งและนำเข้ามาจากประเทศจีนจากนั้นนำมาเก็บไบร์ทโกดังที่Mr.YONGKUI(สงวนนามสกุล) เป็นผู้จัดการบริษัทเพื่อรอแพ็คส่งให้ลูกค้าชาวไทยจากการสอบสวนนางสาวจารุณีพนักงานรับว่าตนจะรับออเดอร์ที่อยู่การจัดส่งจากนั้นทำการแพ็คบรรจุและส่งให้กับลูกค้าชาวไทยตามคำสั่ง Mr.YONGKUI(สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นนายจ้างชาวจีนโดยทำมาแล้วประมาณหนึ่งปี

ด้าน ภญ. สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการตณะกรรมการอาหารและยา ระบุว่า เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฏหมายดังนี้ พรบเครื่องมือแพทย์พ.ศ. 2551 ฐานขายเครื่องมือแพทย์ที่ได้รับอนุญาตระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับพรบ.ยาพ.ศ. 2510 ฐานขายยาขึ้นทะเบียนตำรับยาและขายโดยไม่ได้รับอนุญาตระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกิน 10,000 บาท พ.ร.บ. อาหารพ.ศ. 2522 ฐานจำหน่ายอาหารที่ไม่ขอออยอไม่แสดงฉลากภาษาไทยและแสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้องต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท

พรบ. เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ฐานขายเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้งและไม่มีฉลากภาษาไทยระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ พรบ. วัตถุอันตรายพ.ศ. 2551 ฐานขายวัตถุอันตรายที่ไม่มีฉลากระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ พรบ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรพ.ศ. 2562 ฐานขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตามหลักระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกิน 300,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะที่ พล.ต.ต คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ. กล่าวว่า ประชาชนทั่วไปควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ควรเลือกซื้อจากร้านขายยาหรือร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือร้านค้าที่เชื่อถือได้ก่อนซื้อขอให้ตรวจสอบการได้รับอนุญาตกับเว็บไซต์อย.ก่อน โดยเฉพาะคอนแทคเลนส์ซึ่งนำมาใช้กับดวงตาโดยตรงอาจเกิดอาการแพ้ติดเชื้อส่งผลกระทบต่อดวงตาได้และขอเตือนผู้ที่ลักลอบขายผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันทีหากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุดเพราะท่านกำลังทำให้ประชาชนได้รับความเสี่ยงจากการใช้เครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐาน จนอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อเจ็บป่วยและต้องเยียวยารักษาโรคทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค
 

หน้าแรก » อาชญากรรม