วันที่ 14 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ4 กองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี4 ร่วมสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ3 กองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี4 ปฏิบัติการทลายคอกม้าในพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตามคำสั่งการของทาน พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ4 กองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี4 สืบสวนได้พบว่ามีการลักลอบขายบัญชีม้าให้กับเว็บพนันและแก็งคอเซ็นเตอร์ ในพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยหลอกลวงเด็กและเยาวชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก

จากการสืบสวนพบข้อมูลว่าน.ส.วราลีฯ และนายขจรฯ สองผัว-เมีย ซึ่งเป็นคนกดเงินโดยรับจ้างจากนายทุนเว็บพนันออนไลน์และแก๊งคอเซ็นเตอร์ ซึ่งมี น.ส.วิชญาพร สงวนามสกุล เป็นผู้รวมบัญชี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ4 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับฯ ต่อมาวันที่ 14 ต.ค. 68 ได้ทำการจับกุม น.ส.วราลี สงวนามสกุล และนายขจร สงวนามสกุล ได้ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย และ กับกุม น.ส.วิชญาพร สงวนามสกุล ได้ในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และในกระบวนการดังกล่าวมีเด็กและเยาวชนที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนิดคดีกับกลุ่มเด็กและเยาวชน แต่ได้ได้ทำการสอบสวนปากคำเพื่อทราบข้อมูลใช้ในการขยายผลคดีดังกล่าวต่อไป

จากพฤติกรรมของน.ส.วิชญาพร พบว่าเป็นผู้จักหาบัญชีม้าส่งต่อให้นายทุนรายใหญ่ในพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยจะไปชักชวนเด็กและเยาวชน มารับจ้างเปิดบัญชี ซึ่งพบว่าภายใน 2เดือนที่ผ่านมา น.ส.วิชญาพร  ซึ่งตกเป็นข่าวในสืบสังคมออนไลน์ว่าเป็นกลุ่มบัญชีม้ากร่าง ทำรายร่างกายผู้ที่เปิดบัญชีให้ ในพื้นที่ อ.เชียงแสน ซึ่งเป็นตกข่าวที่น่าสนใจในช่วงนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนยังพบว่าได้เป็นบัญชีรับผลประโยชน์ของเว็บพนัน มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 100 ล้านต่อเดือน และได้ทำการโอนเงินไปยังเครือข่ายโผยกวนบัญชีม้ากว่า10บัญชี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ4 กองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี4 จึงได้ขออนุมัติหมายศาล เพื่อออกหมายจับ น.ส.วราลี  และนายขจร สองผัว-เมีย ซึ่งรับจ้างกดเงินให้กับเว็บพนัน 

จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีที่ได้รับโอนเงินจาก น.สวิชญาพร เป็นบัญชีของเด็กและเยาวชนทั้งหมด จากการสอบปากคำ น.ส.วิชญาพร ได้ให้การรับสารภาพว่าตนได้เป็นผู้ที่ติดต่อจัดหาให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่มาเปิดบัญชีให้ ในราคา 3,000 บาท และตนเองจะนำบัญชีดังกล่าวไปขายต่อในราคา 9,000 บาท โดยผู้รับซื้อจะเป็นคอกม้ารายใหญ่ในพื้นที่ อ.แม่สาย  ซึ่งเจ้าของคอกม้ารายใหญ่จะนำบัญชีไปขายต่อให้กับเว็บพนันและแก๊งคอเซ็นเตอร์ในราคา 30,000 บาท

ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ของรัฐและธนาคารได้ยกระดับของการแก้ปัญหาบัญชีม้าโดยใช้มาตรการเข้มงวดทำให้บัญชีม้าผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น จากเดิมในราคา5,000 บาท ขยับตัวเพิ่มขึ้นหลายเท่า

จากการสอบสวนเด็กและเยาวชน พบว่าเยาวชนหลายคนได้รับหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากหลายท้องที่และมีข้อหาต่างกันทำให้ทราบว่า มีการนำบัญชีไปใช้กับแก็งคอเซ็นเตอร์ด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี4 จะได้ทำกานสืบสวนขยายผลทำการจับกุมต่อไป