วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568 04:55 น.

อาชญากรรม

ตม.ภูเก็ต บูรณการตรวจค้น 5 จุด นอมินีต่างชาติ ย่านป่าตอง

วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 17.17 น.

ตามนโยบายของ  นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ หรือทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ภานุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารท รอง ผบช.สตม. (สป.), พล.ต.ต.ชูธเรศ ยิ่งยงดำรงสกุล ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภาณุภาค จิตประยูรตี  รอง ผบก.ตม.6 (สป.), พ.ต.อ.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต, และ พ.ต.ท.วิศรุต ละเอียดอ่อง รอง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต สั่งการให้ ชุดสืบสวน ตม.จว.ภูเก็ต บูรณาการกับหน่วยงานตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทำการสืบสวน หาข่าวการกระทำผิดของคนต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการรวมกลุ่มของคนต่างด้าวบางสัญชาติ ในพื้นที่แหลงท่องเที่ยวโดยเฉพาะย่านถนนพระบารมี และถนนราษฎร์อุทิศ 200 ปี ตำบลป่าตอง จังหวัดภูเก็ต มีการประกอบธุรกิจฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จึงได้สืบสวนตรวจสอบข้อมูลร้องเรียน ซึ่งพบว่ามีข้อมูลน่าเชื่อว่ามีการกระทำความผิดขึ้น จึงได้ขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดภูเก็ตที่  242/68 ลงวันที่ 22 ต.ค.68 เพื่อเข้าตรวจค้นและตรวจสอบเป้าหมายตามข้อร้องเรียน 

ต่อมาวันที่ 23 ต.ค.68 เวลา 12.30 น. ชุดปฏิบัติการประกอบด้วย ตม.จว. ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.วิโรจน์ ศรีโสภา สว.ฯ ปรก.ตม.จว.ภูเก็ต, ร.ต.อ.สิทธิเดช ทองมี รอง สว.ตม.จว.ภูเก็ต, ร.ต.อ.ธีรพล นิติชาติ รอง สว.ตม.จว.ภูเก็ตพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.ภ.8 นำโดย พ.ต.อ.เทพนม สุวรรณรัตน์ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.8, พ.ต.อ.จงเสริม ปรีชา ผกก.สอบสวน บก.สส.ภ.8, พ.ต.ท.สุริยา รัตนพันธ์ สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.8, พ.ต.ต.สุรศักดิ์ พิพิธกุล สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ บก.สส.ภ.8 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.อ.เอกลักษณ์ บุญแสงเจริญ ผกก.สืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.วรัษฐา วุฑฒิรักษ์ รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.ท.ทัพไทย ลีลานนท์ สว.กก.สืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ ผกก.สภ.ป่าตอง นำโดย พ.ต.ท.สุชาติ ชุมภูแสง รอง ผกก.สส.สภ.ป่าตอง, พ.ต.ต.ศรันย์ ชัยวุฒิ สว.สส.สภ.ป่าตอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทท.1กก.2 บก.ทท3 ตำรวจท่องเที่ยว(พังงา,ภูเก็ต)  นำโดย พ.ต.ต.ชาญณรงค์ รอดทองดี สว.ส.ทท.1กก.2บก.ทท.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดภูเก็ต นายหิรัณย์ หีดจันทร์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง
 
โดยหน่วยงานบูรณาการข้างต้น ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบเป้าหมายตามหมายค้น ซึ่งเป็นร้านค้าให้บริการเช่ารถจักรยานยนต์ จำหน่ายโปรแกรมท่องเที่ยว และร้านตัดผม ผลการตรวจค้นพบในเบื้องต้นพบ คนต่างด้าวเพศชาย(สงวนนามจริง) สัญชาติอิราเอล 1 ราย แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน และให้ข้อมูลว่าเป็นเจ้าของกิจการ บริหารจัดการเองทั้งหมด โดยพบว่ามีลูกจ้าง คนไทย 3 ราย และคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาอีก 2 ราย โดยตรวจสอบสถานะลูกจ้างคนต่างด้าวพบว่าถูกต้องตามกฎหมาย แต่จากการตรวจค้นและรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบว่าสถานที่ดังกล่าวประกอบธุรกิจแยกเป็นธุรกิจบริการให้เช่ารถจักรยานยนต์ ธุรกิจจำหน่ายบริการนำเที่ยว และธุรกิจบริการร้านตัดผม ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจบริการ ตามบัญชี 3 ข้อ 21 ธุรกิจบริการอื่นๆ ที่ไม่ได้รับการยกเว้นให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจ มีโทษตามกฎหมาย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และปรากฏชื่อนิติบุคคลหนึ่งติดไว้ด้านหน้าร้าน แต่พฤติการณ์ของการควบคุมดูแลกิจการเองของคนต่างด้าว ทำให้น่าเชื่อว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมาย จึงได้ตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้อง รถจักรยานยนต์ที่ใช้ประกอบธุรกิจ รวมจำนวน 66 รายการ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง พร้อมกับร้องทุกข์ให้มีการดำเนินคดี กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ว่าเป็นคนสัญชาติใดต่อไป

จากการลงพื้นที่ตรวจค้นตรวจสอบ ยังได้เข้าตรวจสอบธุรกิจที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง อีก 2 แห่ง โดยแห่งแรกเป็นร้านอาหารมีชื่อภาษาอิสราเอล พบว่ามีชายวัยกลางคน สัญชาติอิสราเอล ออกมาแสดงตนเป็นเจ้าของร้านอาหาร มีพฤติการณ์ควบคุมดูแลกิจการเอง จำหน่ายอาหารเองรับเงินเอง จึงได้ทำการตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

จาการตรวจค้นและตรวจสอบจำนวน 5 ธุรกิจได้แก่ 1.ธุรกิจบริการให้เช่ารถจักรยานยนต์  2.ธุรกิจบริการแนะโปรแกรมการท่องเที่ยว   3.ธุรกิจบริการร้านตัดผมชาย(Barber) 4.ธุรกิจบริการร้านอาหาร   5.ธุรกิจบริการร้านอาหาร   ชึ่งจำนวนนี้น่าเชื่อว่ามีการกระทำความผิดแล้วจำนวน 4 ราย อีก 1 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการต่อไป 

หน้าแรก » อาชญากรรม