วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 06:16 น.

อาชญากรรม

อุทยานทองผาภูมิปฏิบัติการลุยป่าทึบซุ่ม 3 คืน รวบต่างด้าวลักลอบขุดทองกลางป่าต้นน้ำ

วันอาทิตย์ ที่ 09 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 15.34 น.

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุก ร่วมกับกองทหารลาดหญ้าและทีมปฏิบัติการพิเศษ เข้าลุยป่าทึบระยะทางกว่า 16 กิโลเมตร ดักซุ่ม 3 คืน จับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวลักลอบบุกรุกพื้นที่ต้นน้ำลุ่มน้ำชั้น 1A เพื่อขุดหาแร่ทองคำ สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติกว่า 750,000 บาท

นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เปิดเผยว่า การเข้มงวดครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สั่งการให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้บุกรุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์

เมื่อวันที่ 5–7 พฤศจิกายน 2568 คณะเจ้าหน้าที่ภายใต้การอำนวยการของนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ, พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกองทหารลาดหญ้า และนายบัญชา กาญจนพันธ์ พนักงานพิทักษ์ป่าอุทยานฯ ได้ร่วมกันออกปฏิบัติการในพื้นที่ป่าปิล๊อกคี่

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่คดี 13 ไร่เศษที่เคยถูกบุกรุก และได้รับสัญญาณพบกลุ่มคน 15–20 คน เข้าออกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงจัดกำลังเดินทางด้วยเรือตรวจการไปยังหมู่บ้านปิล๊อกคี่ ก่อนเดินเท้าฝ่าป่ารกทึบ ลัดเลาะร่องห้วยและไหล่เขา ระยะทางกว่า 16 กิโลเมตร เพื่อเข้าประจำจุดซุ่มจับ จนถึงคืนวันที่ 7 พฤศจิกายน เวลา 22.30 น. เจ้าหน้าที่พบแสงไฟและเสียงพูดคุยใกล้หลุมขุดดิน จึงเข้าปิดล้อมจับกุม แต่ผู้ต้องหาบางส่วนอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายโซเอะเกดุ (ไม่มีนามสกุล) อายุ 34 ปี สัญชาติเมียนมา จากหมู่บ้านยาพู ประเทศเมียนมา ได้ในที่เกิดเหตุ พร้อมของกลาง 13 รายการ อาทิ กระสอบดินน้ำหนักรวม 8 กิโลกรัม มีดดาบ กระสุนปืน .22 LR จำนวน 5 นัด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และอุปกรณ์ขุดดิน-ร่อนแร่ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 756,307 บาท 

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยทางช่องป่าหมาก–ยาพู พร้อมเพื่อนอีก 3 คน หลังถูกชักชวนให้มาขุดหาทองในป่าพื้นที่ดังกล่าว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1. บุกรุกและทำลายป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2482 2. บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 3. บุกรุกพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1A ในเขตอุทยานแห่งชาติ 4. ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ (ดิน หิน แร่) 5. ดำเนินกิจการในเขตอุทยานโดยไม่ได้รับอนุญาต 6. มีอาวุธปืนและกระสุนโดยผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายยุทธพงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตต้นน้ำลุ่มน้ำชั้น 1A ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศอย่างยิ่ง การบุกรุกเพื่อขุดแร่ทองคำก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม ทางอุทยานจะเดินหน้าลาดตระเวนอย่างเข้มงวด และดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดทุกรายโดยไม่ละเว้น.

หน้าแรก » อาชญากรรม