เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 กองกำลังสุรสีห์ โดยหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (ร.29) ได้ประสานงานร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134, ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี และ สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี สนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตั้งจุดตรวจอยู่บริเวณจุดตรวจร่วมจงอั่ว หมู่ที่ 4 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะ 2 คัน ขับตามกันมาตามเส้นทางจากอำเภอเมือง มุ่งหน้าสู่อำเภอสังขละบุรี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบ

จากการตรวจสอบพบผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 รวมทั้งสิ้น 10 คน ประกอบด้วย ผู้นำพาจำนวน 2 คน สัญชาติไทย คือ นายสมบูรณ์ อายุ 55 ปี และ นายศิริพันธ์ อายุ 56 ปี ส่วนผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง สัญชาติจีน จำนวน 8 คน ชาย 6 คน, หญิง 2 คน ซึ่งทั้งหมดไม่สามารถแสดงเอกสารยืนยันตัวตนหรือหลักฐานการเข้าเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายต่อเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ เป็นของกลาง 2 คัน คือ คันสีเทา ทะเบียนเพชรบุรี และคันสีน้ำเงิน ทะเบียนสุพรรณบุรี

จากการซักถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ทราบว่ากลุ่มชาวจีนที่ลักลอบเข้าเมืองเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร ก่อนจะโดยสารรถมาลงบริเวณพื้นที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี จากนั้น นายสมบูรณ์ และ นายศิริพันธ์ ซึ่งเป็นผู้นำพา ได้ขับรถกระบะของกลางทั้ง 2 คัน มารับเพื่อที่จะพาเดินทางต่อไปยังบ้านพระเจดีย์สามองค์ ตำบลหนองลู ซึ่งเป็นจุดสำคัญบริเวณชายแดน

ผู้ต้องหายังให้การเพิ่มเติมว่า ในการลักลอบเข้าเมืองครั้งนี้ กลุ่มชาวจีนจะต้องเสียค่าจ้างเป็นเงินจำนวนประมาณ 3,000 บาทต่อคน โดยตกลงว่าจะจ่ายเมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทางแล้ว แต่มาถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและจับกุมได้เสียก่อน

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้จัดทำประวัติและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ส่งมอบให้สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522

นอกจากนี้ หน่วยข่าวของกองกำลังสุรสีห์ จะดำเนินการขยายผลเพิ่มเติมอย่างเข้มข้น เพื่อพิสูจน์ทราบเส้นทางและเชื่อมโยงข้อมูลไปยังเครือข่ายขบวนการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบขนคนเข้าเมืองผิดกฎหมายในครั้งนี้ต่อไป.