วันที่ 4 ธ.ค.68 พ.ต.ท.สมผล ศรีไสล สว.(สอบสวน) สภ.หนองแสง จ.อุดรธนี รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุสะเทือนใจภายในบ้าน ต.แสงสว่าง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี มีเหตุทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต โดยผู้ก่อเหตุเป็นแม่ใช้อาวุธมีดทำครัวแทงลูกสาวตัวเองเสียชีวิตที่ห้องน้ำภายในบ้าน หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ ผกก.สภ.หนองแสง เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยพนักงานสอบสวนและแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองแสง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ทันที

ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตคือ น.ส.กิติยา หรือ “เบียร์” อายุ 36 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ ถูกพบเสียชีวิตจากบาดแผลถูกแทงหลายแห่ง ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีนอนรอมอบตัวเจ้าหน้าที่ฯ ซึ่งยังอยู่ในที่เกิดเหตุและถูกควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวน ทราบชื่อต่อมาคือ นางจันทร์เพ็ญ หรือ “เพ็ญ” อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นแม่ของน.ส.เบียร์  เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดมีดทำครัวที่ก่อเหตุ เบื้องต้นตำรวจยังไม่รู้แรงจูงใจในการก่อเหตุเพราะคนเป็นแม่ยังอยู่ในอาการเมา จึงควบคุมตัวมายังสภ.หนองแสงเพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมา พ.ต.อ.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ ผกก.สภ.หนองแสง ได้ทำการสอบปากคำผู้ก่อเหตุด้วยตัวเองหลังมารับตำแหน่งวันแรก โดยนางจันทร์เพ็ญ หรือ “เพ็ญ” ให้การเจ้าหน้าที่ฯว่า สาเหตุเกิดจากความเครียดสะสมและความไม่พอใจในพฤติกรรมของลูกสาวผู้เสียชีวิต โดยอ้างว่า “น้องเบียร์” มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยพาคนที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเข้ามาในบ้าน แม้จะถูกตักเตือนหลายครั้งแต่ไม่เชื่อฟัง

นางจันทร์เพ็ญยังระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ 4 วัน ลูกสาวเคยใช้เก้าอี้ตีใส่หลังตนจนได้รับบาดเจ็บ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านตึงเครียดต่อเนื่องทะเลาะกันทุกวันมองหน้ากันไม่ติดระหว่างแม่และลูก และก่อนเกิดเหตุลูกสาวมีปากเสียงกับแฟนหนุ่ม ก่อนจะหันมาโต้เถียงและต่อว่าแม่ด้วยคำหยาบคาย พร้อมทั้งผลักจนตนล้มลง ทำให้เกิดความโมโหอย่างรุนแรง

นางจันทร์เพ็ญ เล่าต่อว่า ตนเพียงตั้งใจจะหยิบมีดทำครัวมาเพื่อข่มขู่ให้ลูกสาวหยุด แต่เมื่อเห็นว่าลูกยังมีพฤติกรรมก้าวร้าว จึงขาดสติและใช้มีดแทงบริเวณไหล่ลูกสาวหนึ่งครั้ง ซึ่งกลายเป็นเหตุให้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหาออกมาตะโกนยอมรับว่าตนเป็นผู้ลงมือ และนอนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาการเสียใจ

นางจันทร์เพ็ญ บอกอีกว่า ตนเคยถูกลูกสาวบังคับให้เสพยาเสพติด และเพิ่งเสพครั้งล่าสุดในคืนก่อนเกิดเหตุ พร้อมยอมรับว่าภายในครอบครัวมีปัญหาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งตนเอง ลูกสาว และแฟนของลูกสาว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเสียใจไหมนางเพ็ญตอบด้วยเสียงสั่นเครือตัวสั้นว่า ไม่เสียใจได้ยังไงลูกสาวตัวเองคลอดมาจากท้อง หากดวงวิญญาณคนลูกสาวรับรู้ อยากบอกว่าแม่ยอมรับผิดหมดทุกอย่าง

พ.ต.อ.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ ผกก.สภ.หนองแสง เปิดเผยว่า  ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญภายในครอบครัว ที่มีผู้เสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด โดยระบุว่า แรงจูงใจหลักมาจากความขัดแย้งและทะเลาะเบาะแว้งภายในบ้านอย่างรุนแรง ซึ่งมีต้นตอจากปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว จากการสืบสวนเบื้องต้น ทราบว่าทั้งผู้ก่อเหตุ (คุณแม่) และผู้เสียชีวิต (ลูกสาว) ต่างฝ่ายต่างมีคนรักที่เรียกว่า "กิ๊ก" และเมื่อมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกันก็เกิดปัญหาความไม่ลงรอยกันอย่างหนัก โดยฝ่ายแม่ไม่พอใจแฟนลูก คุณแม่ไม่ต้องการให้ผู้ชายของลูกสาวเข้ามาอยู่ร่วมในบ้าน โดยให้เหตุผลว่าอยากให้ลูกสาวคบกับคนที่ดีและมีอนาคต ส่วนฝ่ายลูกไม่พอใจแฟนแม่เช่นกัน ขณะเดียวกัน ผู้ตายซึ่งเป็นลูกสาวก็ไม่ชอบผู้ชายที่แม่คบหาอยู่เช่นกัน ความขัดแย้งเรื่องชายคนรักของแต่ละฝ่าย ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันมาโดยตลอด จนนำไปสู่เหตุการณ์ทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายในวันนี้

เบื้องต้นตร.ได้แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” อาวุธที่พบในที่เกิดเหตุคือ มีดปลายแหลม ขณะนี้อยู่ระหว่างการชันสูตรบาดแผลอย่างละเอียดจากแพทย์อย่างเป็นทางการ แม้จะเห็นบาดแผลเพียงแห่งเดียวด้วยสายตา แต่ต้องรอผลสรุปเพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป

ทางด้านพี่สาวผู้ก่อเหตุและป้าของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ใกล้บ้าน กระทั่งได้รู้ข่าวแม่ลูกฆ่ากันตายจึงรีบกลับไปดู แต่ไม่กล้าเดินเข้าไปภายในทันที เพราะเข้าใจว่าน้องสาวกำลังเมาสุรา เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อเมาน้องมักมีพฤติกรรมเสียงดังและร้องไห้ฟูมฟายเป็นประจำ จึงไม่ได้เอะใจคิดว่าเหตุการณ์น่าจะเหมือนทุกครั้ง ไม่นานนักตนได้ยินเสียงน้องสาวร้องไห้หนักและตะโกนเรียกชื่อ พร้อมพูดว่า “ข่อยฆ่าอีเบียร์ตายแล้ว” ตอนแรกยังคิดว่าเป็นคำพูดในอารมณ์เมา จึงถามย้ำว่าฆ่าลูกสาวได้อย่างไร แต่ฝ่ายนางจันทร์เพ็ญน้องสาวก็ร้องตะโกนกลับยืนยันว่า “ตายจริงๆ” จากนั้นตนสังเกตเห็นรอยเลือดติดอยู่บนเสื้อผ้าของน้องสาว จึงรีบไปตามกำนันมาช่วยตรวจสอบ เมื่อกำนันเข้าไปดูที่บ้าน จึงพบว่าหลานสาวเสียชีวิตจริง ขณะที่ผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนี ยังคงนอนรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ

สองแม่ลูกมักมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง บางช่วงก็ต่างคนต่างอยู่ แต่เมื่อมีเรื่องขัดแย้งก็มักกลับมาทะเลาะกันอีก ส่วนสาเหตุแท้จริงที่นำไปสู่เหตุสลดนี้ ตนไม่ทราบแน่ชัด แต่ช่วง 5–6 วันก่อนเกิดเหตุ มีการทะเลาะกันทั้งฝ่ายแม่กับแฟนใหม่ของลูกสาว และฝ่ายลูกสาวกับแฟนใหม่ของแม่ กระทั่งคืนก่อนเกิดเหตุได้ยินน้องสาวบ่นให้ลูกว่า “ผัวกูไม่มาหากูก็เพราะมึง” ซึ่งเป็นเหตุขัดแย้งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนตนไม่ได้สนใจมากนัก สำหรับผู้เสียชีวิต มีบุตรสาว 2 คน คือ เด็กหญิงแพทตี้ อายุ 12 ปี และเด็กหญิงเบลล่า อายุ 4 ขวบ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ครอบครัวโศกเศร้าอย่างหนัก แต่ยังมีญาติช่วยประคับประคองและดูแลหลานทั้งสองต่อไป

ด้านเด็กหญิงวัย 12 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดใจกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วันตนฝันเห็นแม่ประสบอุบัติเหตุ แต่ไม่ได้เอะใจหรือคิดว่าเป็นลางร้าย จนกระทั่งเช้าวันนี้ต้องเผชิญความจริงอันเจ็บปวดว่าแม่ได้เสียชีวิตลงจากเหตุการณ์ภายในครอบครัว แพทตี้กล่าวทั้งน้ำตาว่า หากดวงวิญญาณของแม่รับรู้ได้ อยากบอกแม่ว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะเข้มแข็ง และขอให้แม่ไปสู่สุคติ ไปอย่างสงบ