วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568 14:16 น.

อาชญากรรม

ญาติโวยลั่นวิสามัญหนุ่มหลอนยาดับคาสวนยาง อ้างทำเกินกว่าเหตุ หวั่นซ้ำรอยคดีเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

วันเสาร์ ที่ 06 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 12.19 น.

วันที่ 5 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้าน ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม พบว่าเพื่อนบ้านกำลังจัดเตรียมสถานที่เพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายอัษฎาง หรือนุ อายุ 28 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.หนองบ่อ อ.นาแก วิสามัญฆาตกรรมเมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.30 น. โดยอ้างว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เพราะผู้ตายขัดขืนการจับกุมด้วยอาวุธร้ายแรง
    
นางชา อายุ 64 ปี ผู้เป็นยาย ซึ่งยังอยู่ในอาการช็อกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา เปิดเผยว่าเหตุเกิดที่สวนยางพารา เส้นทางขึ้นอ่างเก็บน้ำห้วยวังแปว นายนุหลานชายได้เดินมาหายายกับตา พร้อมพูดว่ากลัวคนจะมาทำร้าย อยากให้ตากับยายอยู่ด้วยใกล้ๆ ตนเห็นลักษณะก็รู้ว่าหลานหลอนยา เพราะมือเขาจะสั่นตลอดเวลา โดยมีมีดอีโต้เหน็บอยู่ที่ใต้รักแร้ แต่ไม่ได้พูดจาข่มขู่ หรือจะทำร้ายใดๆ จึงว่ากล่าวตักเตือนไป ระหว่างนั้นก็มีนายรุกลูกชายวัย 42 ปี จะมากรีดยางที่สวน เห็นนายนุออกอาการหลอนยา คงเกรงว่าพ่อกับแม่จะไม่ปลอดภัย จึงโทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุ 191 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาระงับเหตุ
    
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.หนองบ่อ จำนวน 3 นายก็เดินทางมากับนายรุกที่สวนยาง พร้อมเรียกตนกับสามีออกมาที่ถนน เหลือนายนุหลานชายที่ยืนอยู่คนเดียว ตำรวจนายหนึ่งเดินไปหาหลานชาย พร้อมสั่งให้หมอบลง ส่วนอีกสองนายเดินอ้อมไปอีกทาง  ตนเห็นหลานเดินจ้ำอ้าวเพื่อหนีการจับกุม ไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้นมากกว่า 1 นัด ตนเห็นร่างหลานชายเซล้มลงหน้าเล้าหมู จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆพบว่าหลานถูกยิงเข้าเอวซ้าย กระสุนไปตุงที่เอวขวา ตอนนั้นเขาพูดไม่ได้และหมดสติ เชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว 

หลังเกิดเหตุตำรวจทั้ง 3 นาย ไม่ยอมให้ใครถ่ายรูปหลานชาย โดยอ้างว่ามีกล้องบันทึกอยู่ที่หน้าอกแล้ว พร้อมเดินหาหัวกระสุนปืน แล้วเอาน้ำมาราดตรงบริเวณที่นายนุหลานชายล้มลง จากนั้นก็นำร่างไปส่งโรงพยาบาลนาแก ตนยืนยันหลานไม่มีพฤติกรรมต่อสู้ขัดขืน ที่เขาหนีเพราะหลอนยากลัวคนจะมาทำร้าย ทำไมตำรวจถึงทำเกินกว่าเหตุ ต้องการร้องขอความเป็นธรรม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

นอกจากนี้นางชาและนายศตวรรษ หรือไอซ์ อายุ 21 ปี ลูกพี่ลูกน้องกับนายนุ ได้เปิดเผยว่าเมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา นายนุเคยเสพยาแล้วคลุ้มคลั่งเผาเถียงนาจนวอดทั้งหลัง จึงถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปเข้าสถานบำบัด 3 เดือน กลับออกมาก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และได้ไปทำงานที่กรุงเทพได้ระยะหนึ่ง ก็กลับมาอยู่บ้านอาศัยหลับนอนที่สวนยางได้ประมาณ 7 เดือน ก็หวนไปเสพยาบ้าอีกครั้ง จนเกิดอาการหลอน แต่ไม่ได้ทำร้ายใคร เพียงแค่เขามีอาวุธมีดเหน็บไว้ใต้รักแร้ เพราะหลอนว่าจะมีคนทำร้าย

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไป สภ.หนองบ่อ พบกับ พ.ต.ท.สุพจน์ ลาดบาศรี สารวัตรสอบสวน สภ.หนองบ่อ ให้ข้อมูลว่าเหตุเกิดอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.นาแก เพราะเป็นรอยต่อกับบ้านจอมศรี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงแล้ว ผู้แจ้งซึ่งอยู่เขตรับผิดชอบ สภ.หนองบ่อ ก็ถือว่าปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องจึงเข้าไปเพื่อจะนำตัวชายคลุ้มคลั่งไปดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนมีการวิสามัญนั้นตนไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นเขตของ สภ.นาแก 

ขณะรายงานข่าวศพของนายอัษฎาง หรือนุ ถูกเก็บไว้ในห้องดับจิต โรงพยาบาลนาแก เพื่อรอส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า เหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ตำรวจ สภ.หนองบ่อรวม 8 นาย ได้ถูกญาตินายวิทยา อายุ 40 ปี อดีตพนักงานขับรถ อบต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม แห่ศพไปร้องขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม กรณีขณะนั่งดื่มสุรากับเพื่อน แล้วมีตำรวจจู่โจมเข้าจับกุมและเสียชีวิตปริศนา ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ ภายหลังแพทย์ผ่าชันสูตรพบว่า มีเลือดออกในช่องท้อง และตับไตฉีกขาด
 

หน้าแรก » อาชญากรรม