วันที่ 23 ธ.ค.68 เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านพนมดงรัก หมู่ที่ 18 ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ มีกลุ่มโจรอาละวาดหนัก ใช้โอกาสที่หลังจากที่สถานการณ์ชายแดนไม่สงบ ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่ บุกวัดทุบงัดเจดีย์เก็บอัฐฐิของบรรพบุษชาวบ้านเสียหายจำนวน 23 หลังเพื่อขโมยเงินที่ชาวบ้านใส่ไว้ในอัฐฐิ จุดเกิดเหตุอยู่ภายในสำนักสงฆ์พนมดงรัก ห่างจากสถานีตำรวจพนมดงรักเพียง 500 เมตร หลังจากรับแจ้งผู้สื่อข่าวรุดลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับผู้นำชุมชนที่เกิดเหตุโดยเร่งด่วน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ถึงจุดเกิดเหตุ พบเจย์ดีย์บรรจุอัฐฐิโดนทุบเสียหายจำนวน23หลัง พบร่องรอยเศาซากจากการทุบ เศษปูนแตกเกลื่อนพื้นหญ้า จากการตรวจสอบพบว่าโกศที่อยุ่ภายในเจดีย์ที่บรรจุกระดูกของบรรพบุรุษถูกรื้อกระจัดกระจายเจดีย์บางหลังมีเศษกระดูกตกร่วงตามพื้นเกลื่อน หลังเกิดเหตุชาวบ้านที่มาพบเจอต่างรู้สึกแย่เพราะสถาการณ์ชายแดนก็ตึงเครียดอยู่ แถมโจรก็ยังมาระบาดหนักเหมือนเป็นการซ้ำเติมคนชายแดนด้วยกัน

นายศิริมงคล วงศ์แปลก อายุ 52 ปี (ผู้ใหญ่บ้านพนมดงรัก) เล่าว่ารับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีโจรมาทุบทำลายเจดีย์เพื่อขดมยเงินที่อยู่ในโกศบรรจุอัฐฐิ จึงได้มาตรวจสอบพบว่าเจดีย์ที่ถูกทุบทำลาย จำนวน23หลังตามปกแล้วตอนที่บรรจุอัฐฐิ ลูกหลานผู้เสียชีวิตก็จะใส่เงินไปในอัฐฐิเพื่อให้ปู้ย่าตายายได้ใช้ตามความเชื่อ ซึ่งตอนนี้สถาการณ์ก็อยู่ในช่วงอพยพด้วยชาวบ้านก็เดือดร้อนอยู่แล้ว ไม่น่าที่จะมาทำแบบนี้เลย อยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ให้เร่งตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุดเพราะช่วงนี้ชาวบ้านหวาดกลัวจากสงครามแล้วยังต้องมา หวาดกลัวกับเรื่องโจรอีก

คุณเจต อายุ 45 ปี (ชาวบ้านในละแวก) เล่าว่า สถานการณ์แบบนี้พวกโจรก็ยังจะกล้ามาทำแบบนี้อีก รู้สึกโกรธแค้นเป็นอย่างมาก จึงอยากฝากไปถึงโจรที่ก่อเหตุว่า ตอนนี้พวกเราคนชายแดนทุกคนก็ลำบากมากพอแล้ว มันจะต้องให้ลำบากขนาดไหนอีกขนาดข้าวกินพวกเรายังไม่มีเลย แล้วทำไมต้องมาทำขนาดนี้ถ้าไม่มีข้าวกินก็ไปที่ศูนย์อพยพเขาพร้อมที่จะดูแล ไม่ต้องทำขนาดนี้หรอกชีวิตชาวบ้านเดือดร้อน แบบนี้ถือว่าซ้ำเติมคนชายแดนด้วยกัน