“แอมเวย์” ปรับแผนรายได้นักธุรกิจครั้งใหญ่รอบ 60 ปี เปิดตัวโปรแกรม “คอร์พลัส” ในไทยแห่งแรกของแอมเวย์ทั่วโลก ดีเดย์ 1 กันยายนนี้   ทุ่มเงินปีละ 1,000 ล้านบาทเข้าโปรแกรม  ตั้งแผนกใหม่ดิจิทัล พัฒนาสู่โซเชียล คอมเมิร์ซ

 

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แอมเวย์ ทั่วโลกได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ครั้งใหญ่ในรอบ 60 ปี ด้วยการเปิดตัวโปรแกรมใหม่ “คอร์พลัส” (CORE PLUS+) เป็นโปรแกรมที่ปรับโครงสร้างรายได้เพิ่มเงินรางวัลพิเศษนอกเหนือจากแผนรายได้หลักให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ทุกระดับ ซึ่งในไทยมีประมาณ 330,000 รหัส

 

 

 

ประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกของแอมเวย์ทั่วโลกที่ใช้โปรแกรมนี้ เริ่มวันที่ 1 กันยายน 2562 นี้ และหลังจากนั้น  ประเทศอินเดีย ฮ่องกงและไต้หวันจะใช้แผน“คอร์พลัส” ด้วย

 

โดยจะเงินในโปรแกรมนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาททุกปีซึ่งจะเพิ่มตามสัดส่วนของรายได้เพื่อนำไปเป็นค่าตอบแทนให้กับนักธุรกิจ นอกเหนือจากแผนรายได้เดิม และปีนี้ยังลงทุนอีก 100 กว่าล้านบาท ในการพัฒนาไฮบริดซอฟท์แวร์และวางระบบด้านดิจิทัลต่างๆ ตลอดจนงบการตลาดและการสร้างแบรนด์อีก 700 ล้านบาท

 

สำหรับโปรแกรมดังกล่าวมีจุดเด่น 3 ประการคือ 1. ได้ง่าย-ช่วยให้นักธุรกิจรายใหม่เริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายและเร็วขึ้น 2.ได้เพิ่ม-ช่วยให้นักธุรกิจในช่วงสร้างธุรกิจได้รับเพิ่มทั้งเงินรางวัลและลำดับขั้นความสำเร็จในเวลาอันสั้น และ 3.เติบโตยั่งยืน – ช่วยให้นักธุรกิจระดับผู้นำสามารถทำรายได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

 

“นักธุรกิจแอมเวย์ในไทย ทรงตัวมาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ได้เพิ่มมากนัก และเราเองก็พยายามที่จะพุ่งเป้าหาคนกลุ่มมิลเลนเนียมมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มี 1 ใน 3 ของนักธุรกิจทั้งหมด  กลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่ ได้เพิ่มแบบรวดเร็ว เพราะคนรุ่นใหม่เองก็มีทางเลือกในการทำธุรกิจมากขึ้น ซึ่งจากผลการวิจัยทั่วโลกของแอมเวย์เอง พบว่า กว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถาม สนใจที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเองซึ่งก็มีหลากหลายให้เลือกไม่ใช่มีแต่ขายตรงเท่านั้น บริษัทเองต้องปรับตัว” นายกิจธวัช กล่าว

 

นายกิจธวัช  กล่าวต่อว่า สำหรับครึ่งปีแรก2562นี้ แอมเวย์ยังเติบโตได้ดี 10%  มากกว่าตลาดรวม ซึ่งคาดว่าโตประมาณ 1-2% เท่านั้น จากมูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วติดลบ 1%  กลุ่มนิวทริไลต์โต 12% เป็นต้น ส่วนปีที่แล้วแอมเวย์มีรายได้ 19,000 ล้านบาท  

 

ส่วนปัจจัยลบของตลาดเองก็ยังมีโดยเฉพาะ 2 ปัจจัยหลักที่มากระทบคือ 1.การเข้าสู่ยุคดิจิทัล และ 2.พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามไลฟ์สไตล์ ทำให้ธุรกิจขายตรงต้องปรับตัวตามด้วย

 

ล่าสุดแอมเวย์ได้ตั้งแผนกดิจิทัล โดยมีผู้บริหารใหม่เข้ามาดูแล เพื่อวางระบบและพัฒนาธุรกิจเพื่อรองรับการเข้าสู่ดิจิทัล ซึ่งเราเองก็ต้องพยายามปรับพฤติกรรมนักธุรกิจของเราให้เข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์และดิจิทัลด้วย รวมทั้งการปรับร้านเป็นดิจิทัลด้วยเช่นกัน

 

" เราลงทุนด้านอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มรูปแบบ มีแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายที่สนับสนุนการทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น และนักธุรกิจแอมเวย์สามารถสร้างการเติบโตด้านโซเชียลมีเดียด้วยการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ต่างๆกับประสบการณ์ด้านดิจิทัล โดยแอมเวย์ตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 2568 ประมาณ 30,000 ล้านบาท" นายกิจธวัช กล่าว