เศรษฐกิจ
กฟผ.ต่อยอดพัฒนาแหล่งน้ำฟื้นชุมชน
วันอังคาร ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561, 16.02 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
กฟผ.ต่อยอดพัฒนาแหล่งน้ำฟื้นชุ มชน
กฟผ. ต่อยอดความสำเร็จการพัฒนาแหล่ งน้ำ “ชุมชนบ้านห้วยยาง” ระดมนักวิชาการให้ความรู้ การงดใช้สารพิษใกล้แหล่งน้ำ
กฟผ. จัดงานเสวนาต่อยอดความสำเร็ จการสร้างแหล่งน้ำชุ มชนตามแนวทางศาสตร์พระราชาเพื่ อการพัฒนาอย่างยั่งยืน พลิกฟื้นหนองน้ำบ้านห้วยยางที่ แห้งขอดมากว่า 40 ปี ให้กลับมากักเก็บน้ำได้มากกว่า 1 แสนลูกบาศก์เมตร
นายณรงค์ ไตรกิจวัฒนกุล ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าน้ำพอง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)เปิดเผยในระหว่างเป็ นประธานเปิดงานเสวนา เรื่อง “ชีวิตจะรอดได้อย่างไร เมื่ออยู่ใกล้น้ำเป็นพิษ” ณ ศาลาปฏิบัติธรรมบ้านห้วยยาง ต.ดงเมืองแอม อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น เพื่อต่อยอดความสำเร็จของชุ มชนบ้านห้วยยางในการพัฒนาแก้ ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริ โภคที่มียาวนานมากว่า 40 ปี โดยกระบวนการสร้างพลังชุมชนร่ วมกันแก้ไขปัญหา ภายใต้การดำเนินโครงการสื่ อสารและสร้างเครือข่ายชุมชนพึ่ งตนเองในพื้นที่ใกล้แนวสายส่ งไฟฟ้าอย่างยั่งยืน หรือ โครงการภูมิชุมชน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กฟผ. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และชุมชนบ้านห้วยยาง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้ งใจในการทำงานร่วมกัน ทำให้ กฟผ. สามารถคว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดี เด่น หรือ SOE Award ประจำปี 2561 ด้านการดำเนินงานเพื่อสั งคมและสิ่งแวดล้อม เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
โดย บ้านห้วยยาง เป็นชุมชนใกล้แนวสายส่ง กฟผ. ที่ประสบปัญหาภัยแล้งเรื้อรั งมายาวนาน ขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริ โภคเกือบทุกปี จึงร่วมกันดำเนินโครงการภูมิชุ มชน โดยน้อมนำศาสตร์พระราชามาเป็ นหลักคิดเพื่อร่วมกันทำความเข้ าใจ แก้ปัญหา และบริหารจัดการตามความต้ องการของชุมชนอย่างแท้จริง โดยร่วมมือกันแก้ปัญหาน้ำตามหลั กธรรมชาติ ให้น้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ ด้วยการวางท่อจากลำห้ วยยางยาวกว่า 760 เมตร ซึ่งไม่เสียค่าสูบน้ำและไม่ส่ งผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ท้ายน้ำ เดิม ทั้งนี้ นอกจากปัญหาด้านแหล่งน้ำแล้ว ชุมชนดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ที่ ได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมี ในภาคเกษตรกรรม เช่น การเพาะปลูกพืชไร่ ได้แก่ อ้อย มันสำปะหลัง และนาข้าว เมื่อมีการให้ความรู้เรื่ องโทษภัยของการใช้สารเคมี ชุมชนจึงเห็นถึงผลกระทบที่มี ความรุนแรงในด้านต่างๆ และหันมาทำแปลงเกษตรอินทรีย์ ปลูกผักปลอดสารพิษกันมากขึ้น สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน และขยายผลสู่ชุมชนใกล้เคียงให้ พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน การเสวนาในครั้งนี้จะเป็นการเปิ ดมุมมองของชุมชนให้ตระหนักถึ งสารพิษ และสารเคมีที่อาจจะปนเปื้ อนในแหล่งน้ำชุมชนที่ร่วมสร้ างกันมา และส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิ ตของเกษตรกรและผู้บริโภคผลิ ตผลทางการเกษตรอย่างร้ายแรงได้
การเสวนาครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากนายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ อดีตผู้ว่าการ กฟผ. บรรยายพิเศษเรื่องทิศทางการพั ฒนาตามแนวทางศาสตร์ พระราชาในการพัฒนาชุมชน ซึ่งเน้นแก้ปัญหาที่เป็นความต้ องการของชุมชนเอง ให้เกิดความเข้าใจปัญหาอย่างแท้ จริงในลักษณะระเบิดจากข้างใน โดยนำมาวิเคราะห์ วางแผนและลงมือแก้ปัญหาด้วยตั วชุมชนเอง ร่วมกับการสนับสนุนของหน่ วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับผู้เข้าร่วมเสวนาถ่ ายทอดความรู้ในครั้งนี้ มี 5 คน ประกอบด้วย ทันตแพทย์หญิง วรางคณา อินทโลหิต จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวั ดหนองบัวลำภู นายคเณศวร โคตรทา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุ ขภาพตำบลบ้านโคกนกพัฒนา จ.หนองบัวลำภู นายวีระศักดิ์ นนท์เหล่าพล วิศวกรระดับ 9 กองบำรุงรักษาโยธา เขื่อนอุบลรัตน์ ดร.รัฐพล ไกรกลาง อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายชาลี แสนจันแดง ปราชญ์ชุมชนบ้านหนองแวงเรือ ต.ดงเมืองแอม โดยมี ดร.ภาสกร บัวศรี ที่ปรึกษาโครงการภูมิชุมชนภาคอี สาน เป็นผู้ดำเนินการเสวนา และตอนท้ายของการเสวนา ได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา คณบดีวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ กล่าวสรุปและปิดการเสวนา และภายในงานยังจัดให้บริ การตรวจเลือดเกษตรกร เพื่อวิเคราะห์หาสารเคมีตกค้ างในร่างกายโดยได้รับความอนุ เคราะห์จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุ ขภาพตำบลดงเมืองแอม
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่